นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมแผนฟื้นฟูบมจ.การบินไทย (THAI) โดยมีนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เข้าร่วมหารือว่า เนื่องจากบริษัทฯ ประสบปัญหาการดำเนินงานมาตลอด และเมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยิ่งสร้างกระทบ โดยได้จัดตั้งคณะทำงานอย่างไม่เป็นทางการที่มีตัวแทนจากกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม เพื่อดูแนวทางเร่งด่วนในช่วงเวลา 3-6 เดือนข้างหน้าเพื่อให้การบินไทยสามารถแข่งขันได้ และยังคงเป็นสายการบินแห่งชาติต่อไป
สำหรับคณะทำงานนี้จะทำงานให้เร็ว โดยปัญหาสภาพคล่องของการบินไทยจะเป็นตัวขีดเส้นเรื่องนี้ ซึ่งแนวทางแก้ไขก็ต้องมีทั้งระยะสั้นและระยะยาว ควบคู่กันไป ทั้งนี้ทุกฝ่ายก็อยากเห็นการบินไทยกลับมาทำการบินได้ แต่ก็ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างเอกชน รัฐบาลและการบินไทย
นายสมคิด กล่าวว่า ในวันนี้ยังไม่ได้พูดถึงในรายละเอียด แต่รัฐบาลจะหาทางออกที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตามยอมรับว่าวันนี้สถานการณ์ของการบินไทยเหนื่อย ส่วนประเด็นที่ การบินไทยจะยังคงสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่ ขอให้คณะทำงานไปพิจารณาก่อน และ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ชี้ว่าอย่างไร
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังยังไม่ได้หารือกับฝ่ายใด หรือเอกชนรายใด ทั้งสิ้น เพียงแต่มีการหารือกับผู้เกี่ยวข้องที่จะจัดทำแผนฟื้นฟู ซึ่งฝ่ายบริหารของการบินไทยเป็นผู้ทำแผน กระทรวงการคมนาคม และกระทรวงการคลัง จะเข้าไปดูแผนฟื้นฟูในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลและผู้ถือหุ้น
"ขณะนี้เรายังไม่ได้ไปถึงขั้นเจรจาอะไรกับใคร เรื่องสภาพคล่อง วันนี้ตอบตรงนั้นไม่ได้ เพราะผู้ทำแผนก็เร่งทำอยู่ เชื่อว่าแผนจะมีความชัดเจน ตัวเลขที่เกี่ยวข้องก็จะตามมา"
ส่วนการปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลัง รมว.คลัง กล่าวว่า ต้องรอแผนฟื้นฟูก่อนว่ามีแผนทั้งด้านการเงิน ยุทธศาสตร์ การดูแลบุคลากร จะพูดส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้
ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ที่ประชุมแก้ไขปัญหาเร่งด่วนการบินไทย จะมีการหารือรายละเอียดทั้งหมดในสัปดาห์หน้า
"หากเดินได้ตามแผน มั่นใจว่าการบินไทยจะกลับมาแข็งแรง ตอนนี้ยังบอกรายละเอียดได้แค่นี้ ส่วนจะใช้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องเป็นการด่วน จะชัดเจนในสัปดาห์หน้า"