โบรกฯมอง BLS เด่นหลังร่วมมือมอร์แกนฯ-BBLเพิ่มลูกค้าดันมาร์เก็ตแชร์พุ่ง

          โบรกเกอร์มองหุ้น BLS เด่นในกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์หลังทำสัญญาเป็น Exclusive Partner กับ Morgan Stanley Asia Limited(MSAL) ส่งจะคำสั่งซื้อขายของลูกค้าในต่างประเทศให้ ทำให้สัดส่วนลูกค้าสถาบันต่างชาติปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นมาเป็น 4.31% จากเดิมอยู่ที่ 3.11% ขณะที่ความร่วมมือในด้านบริการแนะนำลูกค้าที่มีกับธนาคารกรุงเทพ(BBL) มีผลในเชิงบวก 
          โบรเกอร์ส่วนใหญ่ให้ราคาพื้นฐาน BLS ที่ 19 บาท และเชื่อว่าราคายังน่าจะไปได้ต่อ โดยคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2 ออกมาดี ขณะที่งานวาณิชธนกิจปีนี้น่าจะยังสูงเหมือนปีก่อนที่รายได้เพิ่ม 95% เนื่องจากเชื่อว่าครึ่งปีหลังบรรยากาศการลงทุนจะปรับตัวดีขึ้น
          โบรกเกอร์                    คำแนะนำ                    ราคาพื้นฐาน (บาท)
          บล.นครหลวงไทย                 ซื้อ                          21-22
          บล.ไซรัส                       ซื้อ                           19(ยังไปต่อได้)
          บล.ฟาร์อีสท์                     ถือ                           19
          บล.ทรีนิตี้                       ซื้อ                           19
          นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย มองหุ้น BLS ประเด็นแรกหุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์ตอนนี้น่าสนใจอยู่แล้ว ประเด็นที่ 2 หุ้น BLS มีมาร์เก็ตแชร์ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแนวโน้มของการทำธุรกิจในระยะยาวจากการได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นแบงก์ถือว่าเป็นสัญญาณที่น่าสนใจในระยะยาว 
          ในแง่ราคาหุ้น หากประเมินจากมูลค่าการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวันในปี 50 น่าจะอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท ราคาหุ้น BLS น่าจะอยู่ที่ 21-22 บาท/หุ้น
          นางสิริณัฏฐา เตชะศิริวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ไซรัส มองว่า BLS มีปัจจัยบวกหลายอย่าง ทั้งที่ร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ Morgan Stanley เมื่อ 11 มิ.ย.และเซ็นสัญญาความร่วมมือด้านบริการแนะนำลูกค้ากับ BBL ทำให้มาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จาก ม.ค.-10 มิ.ย.มาร์เก็ตแชร์ BLS อยู่ที่ 3.11% และหลังเซ็นสัญญาตั้งแต่ 11-30 มิ.ย.ปรับขึ้นมาเป็น 4.31% โดยมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นกว่า 1% ในระยะ 15 วัน 
          สำหรับความร่วมมือกับ BBL มองระยะปานกลางน่าจะเป็นบวก เพราะ trend คงต้องพยายามที่จะดึงลูกค้าเงินฝากมาที่ตลาดทุน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางตลาดอยากจะทำด้วย และ BBL เป็นแบงก์ที่ใหญ่สุด มีฐานลูกค้าเงินฝากมากที่สุด 
          หากมองในแง่ปัจจัยพื้นฐานของ BLS ค่า PE เทียบกับบริษัทหลักทรัพย์อื่นก็จะค่อนข้างต่ำกว่า แต่ราคาหุ้นปรับขึ้นมาค่อนข้างแรง โดยราคาตามปัจจัยพื้นฐานทำไว้ที่ 19 บาท แต่เชื่อว่าราคายังน่าจะไปได้ต่อเพราะใช้มาร์เก็ตแชร์ค่อนข้าง conservative แค่ 3.5% 
          "ช่วงสั้นอาจจะมีพักบ้าง แต่ยังน่าจะไปต่อได้เพราะ 19 บาท อยู่บนสมมุติฐานส่วนแบ่งตลาดของ BLS ที่ 3.5% ตอนนี้ยังประมาณ 3% กว่าก็ต้องดูว่าจะขึ้นไป 4% กว่าได้ต่อเนื่องหรือเปล่า เพราะหลังมอร์แกนเข้ามาเฉลี่ยประมาณ 4.3% ซึ่งขึ้นมาประมาณ 4.5% ปัจจัยพื้นฐานก็จะขึ้นมาอีก 5 บาท เป็น 24 บาท โดยใช้วอลุ่มเฉลี่ยต่อวันที่ 20,000 ล้านบาท" นางสิริณัฏฐา กล่าว
          ในส่วนของงานวาณิชธนกิจปีนี้ยังน่าจะดีต่อเนื่องจากปี 49 ที่รายได้จากวาณิชธนกิจเพิ่มขึ้นถึง 95% เป็น 162 ล้านบาท และปีนี้ได้ LANNA อีกก็คงอยู่ในดีลที่มองอยู่โดยมองปีนี้รายได้ IB ก็ยังน่าจะสูงแบบปีก่อนคือจะมีดีลเข้ามาต่อเนื่อง
          นักวิเคราะห์ บล.ฟาร์อีสท์ ให้ความเห็นว่า BLS ราคาหุ้นปรับขึ้นแรงโดยเป้าหมายที่ 19 บาท ตอนนี้แนะพียง"ถือ"ผลประกอบการไตรมาส 2/50 คงจะออกมาดี แนวโน้มครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้นในแง่ของบรรยากาศการลงทุน ทั้งเศรษฐกิจที่จะกระเตื้องขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก การเมืองคงดีขึ้น ถ้าดูจากปัจจัยหลักในระยะกลาง-ยาว ยังมองเป็นบวกอยู่แต่ระยะสั้นเป็นไปได้ที่ราคาหุ้นอาจจะมีการปรับฐานลงมาบ้างเพราะราคาหุ้นปรับค่อนข้างแรงในช่วงที่ผ่านมา
          "ผลประกอบการยังมองดีอยู่แต่ระยะสั้นราคาหุ้นอาจจะผันผวนบ้าง ราคาเทรดปัจจุบันก็สามารถที่จะถือได้ เพียงแต่หุ้นหลักทรัพย์เป็นหุ้นเก็งกำไรเพราะฉะนั้นเวลาลงก็ลงแรง ขึ้นก็ขึ้นแรง แต่ถ้ามองเชิงพื้นฐานทั้งปีก็สามารถที่จะถือได้ แต่ถ้าจะซื้อควรรอเมื่อราคาอ่อนตัวลงมา"นักวิเคราะห์ กล่าว 
          ฝ่ายวิจัย บล.ทรีนิตี้ ประเมินหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ยังมีความน่าสนใจในช่วงที่นักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจในการลงทุนมากขึ้น แต่เนื่องจากหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์มีความเสี่ยงตามภาวะตลาดยังคงมีความผันผวนสูง ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยทางการเมืองเป็นหลัก ดังนั้น คำแนะนำในการลงทุนยังคงให้ซื้อขายอย่างระมัดระวัง โดยลงทุนในหุ้นหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ 
          โดยแนะนำ BLS เป็น Top Pick เนื่องจาก BLS น่าจะได้ประโยชน์มากกว่าจากการเป็นพันธมิตรกับ MSAL และ BBL ซึ่งอาจจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้แก่ BLS ได้อีก 
          และในช่วงที่นักลงทุนในประเทศเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นน่าจะส่งผลดีต่อ BLS ที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้นในเดือนมิ.ย.50 ที่ 3.9% ซึ่งสูงกว่าในเดือน พ.ค.ที่อยู่ในระดับ 2.84% โดยให้ราคาเป้าหมาย BLS อยู่ที่ 19 บาท