นายคู่สูรย์ รัตนะพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการเงิน บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้ไว้ที่ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ราว 5,300 ล้านบาท โดยยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามปกติแล้วผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกเป็นช่วงโลว์ซีซั่นอยู่แล้ว หากสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยจบลงอย่างที่คาดการณ์ไว้ในช่วงไตรมาส 2/63 ก็จะไม่กระทบกับเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่ปัจจุบันบริษัทได้ปรับกลยุทธ์ใหม่ให้เข้ากับสถานการณ์ โดยเน้นรุกตลาด Online มากขึ้น รวมไปถึงการเร่งเปิดตัวสินค้าใหม่ให้เร็วกว่าเดิม เพื่อกระตุ้นยอดขายเพิ่มเติม ซึ่งยังคงเน้นเพิ่มสินค้ามาร์จิ้นสูง อาทิ ผลิตภัณฑ์ Supper Snack โดยจะเน้น 3 ด้าน คือ Plant Snack , Protein Snack และ Premium Snack สำหรับตลาดในประเทศจีนที่เป็นสัดส่วนรายได้อยู่ 40% ของรายได้รวม ปัจจุบันเริ่มฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ กลับมาเปิดให้บริการ การขนส่งสินค้ากลับมาใกล้กับช่วงปกติแล้ว ส่วนแผนการควบรวมโรงงานทั้ง 2 แห่งเข้าด้วยกันโดยการย้ายเครื่องจักรการผลิตจากโรงงานนพวงศ์ ปทุมธานี ไปไว้ในพื้นที่โรงงานโรจนะ จะช่วยให้สามารถลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่กำลังการผลิตจะลดลงอยู่ที่ 7,000-6,000 ตันต่อปี จากเดิมอยู่ที่ 8,250 ตันต่อปีนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษา ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในช่วงไตรมาส 3/63 นี้ โดยการควบรวมโรงงานทั้ง 2 แห่งเพื่อที่จะช่วยให้บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนการผลิตได้ดียิ่งขึ้น "แม้ว่าตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันยอดขายจะถูกกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีแรกเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของบริษัทอยู่แล้วหากสถานการณ์สามารถคลี่คลายได้ในช่วงครึ่งปีแรกก็เชื่อว่ายอดครึ่งปีหลังจะกลับมา และช่วยให้รายได้ปีนี้ใกล้เคียงกับปีก่อนได้ โดยปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีกลับมาจากประเทศจีนหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลาย คำสั่งซื้อก็กลับมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงระยะเวลาแบบนี้เราก็เน้นการบริหารจัดการต้นทุนที่ดียิ่งขึ้น และหากโควิด-19 ในไทยคลี่คลายได้ตามคาดก็จะทำให้กำไรสุทธิปีนี้เติบโตได้"นายคู่สูรย์ กล่าว