(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นหลังสถานการณ์ไวรัสโค

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นขานรับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทรงตัวถึงดีขึ้นในหลายพื้นที่ของโลก ทั้งในยุโรป, สหรัฐ และไทย จากจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตชะลอลง อีกทั้งสหรัฐค้นพบยารักษาผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีความคาดหวังว่าสถานการณ์ที่ดีขึ้นในประเทศไทยจะส่งผลให้รัฐบาลทยอยให้เปิดเศรษฐกิจเข้าสู่ระบบปกติ อย่างเร็วสุดคือตั้งแต่ 1 พ.ค.นี้ หลังจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักรจะสิ้นสุดในวันที่ 30 เม.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อ Sentiment การลงทุน โดยคาดว่าจะเริ่มจากการให้เปิดร้านทำผม และ ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกัน แนะนำติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการกลุ่มแบงก์งวดไตรมาส 1/63 และยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิดต่อไป

พร้อมให้แนวรับ 1,230-1,220 จุด ส่วนแนวต้าน 1,250-1,260 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (17 เม.ย.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,242.49 จุด เพิ่มขึ้น 704.81 จุด (+2.99%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,874.56 จุด เพิ่มขึ้น 75.01 จุด (+2.68%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,650.14 จุด เพิ่มขึ้น 117.78 จุด (+1.38%)
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 207.41 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.92 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 123.56 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 15.41 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 6.19 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 8.07 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 4.35 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 23.96 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 เม.ย.63) 1,239.24 จุด เพิ่มขึ้น 39.09 จุด (+3.26%)
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 160.87 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 เม.ย.63
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (17 เม.ย.63) ปิดที่ 18.27 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.60 ดอลลาร์ หรือ 8.1%
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 เม.ย.) อยู่ที่ 0.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิด 32.50 แข็งค่าจากเย็นวันศุกร์ จากความหวังปลดล็อกดาวน์มาตรการโควิด คาดกรอบวันนี้ 32.40-32.50
โควิดกระเทือนท่องเที่ยวไทย ดับฝันพยุงเศรษฐกิจไทย "สทท." คาดปี 63 ทำรายได้ 5% ของจีดีพีก็เก่งแล้ว "ททท." ตั้งทีมนิวนอร์มอลรับมือพฤติกรรมท่องเที่ยวเปลี่ยน ด้าน "เซ็นเทล" ชี้แรงกว่าดิจิทัลดิสรัปชั่น ธุรกิจแชริ่ง "แอร์บีแอนด์บี" โดนหางเลข
"สนธิรัตน์" ถกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวันนี้ (20 เม.ย.) หวังถกลดค่าไฟฟ้าให้มากกว่า 3% พร้อม "ส.ว.คำนูณ" แนะสั่ง กฟน.-กฟภ.ชี้แจง บิลค่าไฟเดือนล่าสุดบางคนพุ่งกว่า 3 เท่า พร้อมมีระบบอุทธรณ์ค่าไฟสูงผิดปกติ เสนอลดค่าไฟแบบขั้นบันได หากกลัวประชาชนใช้ฟุ่มเฟือย เพจ พนักงานไฟฟ้า" ชี้คิดแบบอัตราก้าวหน้า ใช้เยอะ-ค่าไฟพุ่ง แถม 4 เครื่องใช้ไฟฟ้าตัวกินไฟ "แอร์-เครื่องฟอกฯ-พัดลมไอน้ำ-ตู้เย็น" ทำงานหนักกว่าปกติ
"กสทช.-โอเปอเรเตอร์" จ่อสรุปมาตรการช่วยเหลือ ประชาชนคาดจบที่ให้โทรฟรีบนในเครือข่าย 100 นาที โทรฟรีนอกเครือข่าย 50 นาที มีผล 1 พ.ค.นี้ ครอบคลุมกว่า 50 ล้านเลขหมาย เชื่อ ประชาชนยังไม่พอใจ โอด 3 เครือข่ายขาดกระแสเงินสดอย่างหนัก แถมค่าประมูลจ่อคอหอยด้วย
ธปท. ทบทวนแผน ออกหลักเกณฑ์คิด "ดอกเบี้ย-ค่าธรรมเนียม" ทั้งระบบ เพื่อให้แบงก์ใช้เป็นแนวปฏิบัติ จากเดิมคาดออกกลางปีนี้ ชี้อาจไม่ใช่จังหวะที่เหมาะสมจาก "โควิด-19" ระบาด เชื่อทุกแบงก์ให้ความสำคัญกับการช่วยลูกหนี้อยู่แล้ว
ทีดีอาร์ไอเสนอแนวทางผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ชูใช้แผนผสมผสาน ย้ำสถานที่แออัด ผับ บาร์ โรงหนัง คอนเสิร์ต ยังไม่ควรเปิด ด้านเซ็นทรัลร่อนหนังสือถึงผู้เช่าเตรียมเรียกพนักงานขายกลับมาทำงาน ภาคเอกชนส่งแผนรีสตาร์ทธุรกิจเสนอ ศบค.
สายการบินในประเทศตบเท้าขอพบ รมว.คลัง 20 เม.ย.นี้ ก่อน 8 สายการบินถกฝ่าวิกฤติ 22 เม.ย. ระบุยอมกลืนเลือดไม่ปลดคน 3-5 หมื่นคน แค่รัฐช่วยจัดหาซอฟต์โลนจ่ายเงินเดือน
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า การกู้เงินจำนวน 1 ล้านล้านบาทเพื่อมาเยียวยาประชาชน อาจกระทบโครงการในอนาคตของ รฟม. เนื่องจากต้องใช้งบประมาณของรัฐบาล อาจมีประเด็นเรื่องพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง และเพดานหนี้สาธารณะ ส่งผลให้โครงการก่อสร้างที่ยังไม่เริ่มดำเนินการอาจจะถูกลดความสำคัญลง

*หุ้นเด่นวันนี้

CRC (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า IAA Consensus 38 บาท ได้ Sentiment บวกจากข่าว หอการค้า, ทีดีอาร์ไอ และ

กระทรวงสาธารณสุข เตรียมหารือเพื่อผ่อนคลายมาตรการ Lockdown กันวันนี้ เบื้องต้นคาดกลุ่มธุรกิจ ห้างสรรพสินค้า และกลุ่มร้านอาหารถูกจัดเป็นกลุ่มสีเขียวมีสิทธิได้กลับมาเปิดดำเนินการก่อน

CBG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 107 บาท แม้จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และการ Lockdown ซึ่งกระทบส่งออกไป CLMV แต่ผลกระทบก็ยังน้อยกว่าธุรกิจอื่นเพราะเครื่องดื่มชูกำลังไม่แปรผันตามภาวะเศรษฐกิจมากนัก กำไร Q1/63 เชื่อว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ด้านอัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเพราะต้นทุนลดลงทั้งอลูมิเนียม ก๊าซธรรมชาติ และน้ำตาล และการทำรง. Packaging เองจะช่วยลดต้นทุนได้อีก ส่วน C+lock ที่เริ่มวางขายตั้งแต่ มี.ค. ได้รับการตอบรับดี ยังไม่ได้รวมในประมาณการ ปัจจุบันมี PE เพียง 19 เท่าต่ำกว่ากลุ่มที่ 21 เท่าและต่ำกว่า OSP มาก

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--