AP เล็งเพิ่มเป้ารายได้ทะลุ 7พันลบ.เหตุรอรับรู้อีกเพียบ-เปิดโครงการใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 12, 2007 16:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายวิษณุ สุชาติล้ำพงษ์ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (AP) คาดว่า บริษัทมีโอกาสปรับเป้ารายได้ในปี 50 ให้สูงกว่า 7 พันล้านบาทที่ได้ตั้งไว้เดิม เนื่องจากรายได้ในไตรมาส 2/50 จะออกมาใกล้เคียงในไตรมาส 1 ที่ 1.4-1.5 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการที่มาจากแนวราบกว่า 6 พันล้านบาท และยังมีการรอรับรู้รายได้บางส่วนจากโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวไปแล้ว 2-3 พันล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทได้มีการปรับราคาขายในโครงการ The Address สุขุมวิท 42 อีก 5% จาก 7 หมื่นบาท/ตร.ม. หลังจากที่มียอดขายกว่า 80% ซึ่งตอนนี้เหลือ 20% หรือ 41 ห้อง
ปัจจุบัน AP มีงานในมือ(Backlog) 1.4 หมื่นล้านบาท โดยจะมีการโอนให้ลูกค้าในปีนี้ 3 พันล้านบาท ที่เหลือจะรับรู้ในปีหน้า
สำหรับโครงการที่จะเกิดในครึ่งหลังของปีนี้จะมี 5 โครงการ มูลค่า 3.5 พันล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการและทาวน์เฮ้าส์ 2 โครงการ โดยในไตรมาส 3 นี้ จะเปิดตัวคอนโดมิเนียมเพิ่มอีก 1 โครงการ ภายใต้แบรนด์"Life พหลโยธิน 18"มูลค่าประมาณ 340 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 1.5-1.6 ล้านบาท
และในไตรมาส 4 จะเปิดตัวคอนโดมิเนียม" Life The Address สุขุมวิท 42"มูลค่าโครงการ 1.3 พันล้านบาท ราคาเฉลี่ย 2 ล้านบาท และ "Life Address รัชดา-ห้วยขวาง" มูลค่า 1.6 พันล้านบาท
พร้อมทั้งจะเปิดตัวทาวน์เฮ้าส์ 2 โครงการ บริเวณถนนกรุงเทพกรีฑา ภายใต้โครงการ"บ้านกลางเมือง" มูลค่า 310 ล้านบาท และบริเวณโชคชัย 4 "บ้านกลางกรุง" มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ในปีหน้าบริษัทเตรียมแผนจะเปิดอีก 5-7 โครงการ ทั้งโครงการทาวน์เฮ้าส์และคอนโดมิเนียม และขณะนี้มีการซื้อที่ดินเตรียมไว้แล้ว และได้มีการวางมัดจำไว้
"ต้องยอมรับว่าตอนนี้แนวราบและบ้านเดี่ยวชะลอจากปัจจัยต่างๆที่เกิดขึ้น แต่ทาวน์เฮ้าส์พอขายได้ แต่ที่ทะลักจะเป็นคอนโดฯ ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการผู้บริโภคตอนนี้ แต่หากดูจะพบว่าคอนโดฯ ที่จะอยู่ได้จะต้องเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ และปัจจัยตอนนี้ที่ทำให้ลูกค้ากลับมา คือ ดอกเบี้ยที่ทยอยลดลง" นายวิษณุ กล่าว
ส่วนแผนออกหุ้นกู้วงเงิน 3 พันล้านบาทนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างคัดเลือกที่ปรึกษาทางการเงิน และจะต้องมีการหารืออีกครั้งว่าจะออกทั้งล็อต หรือทยอยออก รวมทั้งจะต้องพิจารณาส่วนต่างของต้นทุนระหว่างการออกหุ้นกู้กับการกู้เงินธนาคารด้วย และคาดว่าน่าจะได้เห็นในไตรมาส 3
อย่างไรก็ตาม การออกหุ้นกู้ล็อตใหม่จะช่วยลดภาระดอกเบี้ย ซึ่งปัจจุบัน D/E ของบริษัทยังที่ 0.6 เท่า ถือว่าไม่สูงมากนัก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ