ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,252.92 จุด ลดลง 13.48 จุด (-1.06%) มูลค่าการซื้อขาย 58,676.75 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยทำระดับสูงสุดที่ 1,260.96 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,243.58 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 592 หลักทรัพย์ ลดลง 702 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 341 หลักทรัพย์
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวนค่อนข้างมาก ตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย และตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ต่างติดลบกัน รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ติดลบส่งผลให้กลุ่มพลังงานถ่วงตลาด แต่ตลาดหุ้นไทยดูดีกว่าตลาดภูมิภาค จากที่มีการรีบาวด์ได้ในช่วงบ่าย(ลดช่วงลบ) จากความคาดหวังในมาตรการผ่อนปรนล็อกดาวน์ และรายงานผลกำไรของกลุ่มการเงินที่ดีกว่าคาด จากเดิมที่มีการตีความกันว่าจะออกมาแย่มาก อีกทั้งแนวโน้มไตรมาส 2/63 กำไรก็ไม่แย่มากเนื่องจากมีการเลื่อนใช้มาตรการฐานบัญชีออกไปก่อน
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยขณะนี้เทรด P/E กว่า 16 เท่า ถือว่าแพงแล้ว ซึ่งก็เป็นการซื้อบนความคาดหวัง ทั้งที่ยังไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นจริง โดยตลาดฯได้รับแรงส่งจากนักลงทุนในประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันในประเทศที่ซื้อหนุนมาโดยตลอด ขณะที่ต่างชาติก็ยังคงขายต่อเนื่อง ซึ่งถ้าสถาบันเปลี่ยนทิศทางมาขายก็จะทำให้ตลาดฯปรับตัวลง อีกทั้งให้จับตาพวกที่ไล่หุ้นจนขึ้นไป 30% แล้วจะเปลี่ยนมาขายหรือไม่
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (22 เม.ย.) นายถนอมศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสที่จะซึมลง โดยให้จับตาการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และมาตรการผ่อนปรนของทางการจะมีอะไรบ้าง
พร้อมให้แนวรับ 1,243-1,226 จุด ส่วนแนวต้าน 1,270-1,280 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,738.60 ล้านบาท ปิดที่ 34.00 บาท ลดลง 1.25 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 3,239.95 ล้านบาท ปิดที่ 36.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,629.81 ล้านบาท ปิดที่ 60.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,793.02 ล้านบาท ปิดที่ 65.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,775.89 ล้านบาท ปิดที่ 76.25 บาท ลดลง 2.75 บาท