นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะยังเผชิญแรงขายทำกำไรต่อเนื่องจากไม่ได้มีปัจจัยบวกอะไรเข้ามา ขณะที่การผ่อนคลายล็อกดาวน์ก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิดไว้ และตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ติดลบใกล้ 1%
ทั้งนี้ มองว่าตลาดบ้านเราในแง่ Valuation จะมี upside ที่น้อยแล้ว และเมื่อดัชนีฯเข้าใกล้ระดับ 1,264 จุด มักจะเกิดแรง Take profit ออกมา อย่างไรก็ดีให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป
พร้อมให้แนวรับ 1,230 จุด ส่วนแนวต้าน 1,260-1,264 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (21 เม.ย.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,018.88 จุด ลดลง 631.56 จุด (-2.67%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,736.56 จุด ลดลง 86.60 จุด (-3.07%) ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,263.23 จุด ลดลง 297.50 จุด (-3.48%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 171.60 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 12.94 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 253.01 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 32.31 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 23.87 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 20.95 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 15.33 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 เม.ย.63) 1,252.92 จุด ลดลง 13.48 จุด (-1.06%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 6,098.13 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 เม.ย.63
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (21 เม.ย.63) ปิดที่ 10.01 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 47.64 ดอลลาร์ หรือ 126.6%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 เม.ย.) อยู่ที่ -1.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.52 อ่อนค่าจากวานนี้หลังดอลล์แข็ง นลท.หันถือสินทรัพย์ปลอดภัยหลังน้ำมันผันผวน
- นายกฯ ถก พ.ร.ก.ฉุกเฉินสัปดาห์หน้า พร้อมข้อเสนอปลดล็อกธุรกิจ ยืนยันให้น้ำหนักสาธารณสุข หวั่นระบาดเพิ่มหลังผ่อนคลาย ศบค.เผยยอดติดเชื้อใหม่ ชะลอ รวมสะสม 2,811 ราย ชี้ นักวิชาการ-เอกชนร่วมพิจารณา ครม.เพิ่มเยียวยาประชาชนเป็น 14 ล้านคน อัดงบ 2.1 แสนล้าน อนามัยโลกเตือนอย่ารีบคลายล็อกดาวน์
- "พาณิชย์" เผยส่งออกมี.ค.โต 4.17% สูงสุดรอบ 8 เดือน ผลจากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์-อาหาร ทั้งยังได้อานิสงส์จากเงินบาทอ่อน ลุ้นทั้งปีโต 0% ด้าน "แบงก์ชาติ" ยอมรับขยายตัวเกินคาด ห่วงไตรมาส 2 หดตัวแรง เหตุพิษโควิดทำเศรษฐกิจ-การค้าโลกชะลอตัว ขณะ "ศูนย์วิจัยกสิกรไทย" ประเมินเติบโตจากทั่วโลกเร่งกักตุนอาหาร หลังหลายประเทศประกาศ "ล็อกดาวน์" ทั้งรับผลบวกจากซัพพลายเชนในจีนสะดุด ออเดอร์ไหลเข้าไทย หวั่นขยายตัวแค่ชั่วคราว
- "9 กองทุนน้ำมัน" อ่วมหนัก ผลตอบแทนปีนี้หดตัวแล้วเฉลี่ย 50% "มอร์นิ่งสตาร์" ชี้พิษโควิดกด "ดีมานด์" ทั่วโลกวูบ ส่งผลต่อราคาน้ำมันตลาดโลกดิ่งหนัก เผย "เอยูเอ็ม" กองน้ำมันล่าสุดเหลือเพียง 3 พันล้าน ลดลง กว่า 50% เมื่อเทียบกับ 5 ปีที่ผ่านมา ด้าน บลจ. เตือนเลี่ยงลงทุน ยอมรับความเสี่ยงค่อนข้างสูง แนะผู้สนใจควรหันลงทุนกองหุ้นพลังงานแทน
- นายอธิป พีชานนท์ ประธานสมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริทรัพย์ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์สิ้นไตรมาสแรกว่า ได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจากไวรัส และสงครามการค้า คาดว่าภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2563 จะติดลบเกิน 25% จากยอดโอนปีละ 8 แสนล้านบาท โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมกระทบรุนแรงกว่ายอดขายลดลงไม่น้อยกว่า 40% เพราะคนชะลอการตัดสินใจซื้อ เนื่องจากส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มลงทุนปล่อยเช่า ซื้อเพื่อการอยู่อาศัยในเมือง และซื้อเพื่อให้ลูกที่เข้ามาเรียนในเมือง รวมถึงผู้ซื้อต่างชาติทั้งจีนและประเทศอื่น ซึ่งเดิมมีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติอยู่ประมาณ 10% ปัจจุบันหายไปเลย
*หุ้นเด่นวันนี้
- BCPG (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 19.8 บาท ไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการใช้ไฟฟ้าฟรีจากภาครัฐ (ใช้เงินจากงบกลาง) ขณะที่ BCPG เป็นหุ้น Defensive ที่ Valuation ไม่แพงซื้อขายบน PE ต่ำเพียง 10 เท่าจ่ายปันผลสม่ำเสมอให้ Dividend yield ประมาณ 5-6% ต่อปี นอกจากนี้ยังมี Growth story จากจำนวน MW ที่เพิ่มขึ้น จากโครงการ ด้านโรงไฟฟ้า Nam San 3A และ 3B ในเวียดนาม, โรงไฟฟ้าพลังงานลม Swan กำลังการผลิต 270MW ในลาว และ โรงไฟฟ้า solar สี่แห่ง 75MW ในญี่ปุ่น คาดว่าจะเริ่มเห็นงบที่ดีขึ้นตั้งแต่ Q1/63 เป็นต้นไป
- DELTA (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 47 บาท โควิด-19 กระทบการขนส่งวัตถุดิบทำให้ล่าช้า ค่าขนส่งสูงขึ้น และกระทบรายได้กลุ่ม Automotive และ Industrial เพราะการหยุดธุรกิจของลูกค้าในสหรัฐและยุโรป แต่ชดเชยได้จากรายได้กลุ่ม ICT (Telecom, Data center) และ Medical (Power supply สำหรับผลิตเครื่องช่วยหายใจ) ที่ดีขึ้น บวกกับบาทอ่อน จึงคาดกำไรสุทธิ Q1/63 +38% Q-Q, -51% Y-Y แนวโน้ม Q2/63 ทรงถึงดีขึ้น ส่วนคำสั่งซื้อสินค้าชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิคส์จะเร่งตัวทันทีที่เปิดเศรษฐกิจอีกครั้งเพราะ Inventory ของโลกที่ต่ำ พร้อมคาดกำไรปีนี้ +13% เป็น 3.43 พันลบ. และเร่งตัวขึ้นในปีหน้า