ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) ดันดัชนี S&P 500 และดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากยอดขายของผู้ค้าปลีกสหรัฐที่ดีเกินคาดได้ช่วยให้นักลงทุนสลัดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไปได้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 283.86 จุด หรือ 2.09% ปิดที่ 13,861.73 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 28.94 จุด หรือ 1.91% ปิดที่ 1,547.70 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 49.94 จุด หรือ 1.88% ปิดที่ 2,701.73 จุด
ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.66 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 1
ตลาดหุ้นทะยานขึ้นจากแรงซื้อของนักลงทุนที่คลายความวิตกหลังจากเห็นสัญญาณการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่สดใส โดยรายงานยอดขายของห้างวอลมาร์ทซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของโลกและบริษัทผู้ค้าปลีกอีกหลายรายช่วยสร้างความคึกคักให้กับนักลงทุนก่อนที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกประจำเดือนมิ.ย.ในวันศุกร์
ทั้งนี้ วอลมาร์ทเปิดเผยว่า ยอดขาย ณ สาขาของห้างที่เปิดดำเนินการไม่น้อยกว่า 1 ปี พุ่งขึ้น 2.4% ซึ่งดีกว่าที่คาดไว้ นอกจากหุ้นวอลมาร์ทแล้ว หุ้นของอินเทล คอร์ป ยังได้หนุนให้ดาวโจนส์ปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่แบงก์ ออฟ อเมริกา ซีเคียวริตี้ส์ วิเคราะห์ว่า ยอดขายในไตรมาสสองของอินเทลอาจดีเกิดคาด ซึ่งส่งผลให้หุ้นของบริษัทดีดขึ้น 1.43 ดอลลาร์ หรือ 5.8% แตะที่ 26 ดอลลาร์
ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่บริษัทเหมืองแร่ ริโอ ทินโต เสนอซื้อบริษัทอัลแคน ผู้ผลิตอะลูมิเนียมของแคนาดาเป็นเงิน 38.1 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้หุ้นอัลแคนทะยานขึ้น 8.85 ดอลลาร์ หรือ 9.9% ปิดที่ 98.45 ดอลลาร์
ขณะที่หุ้นอัลโค อิงค์ หนุนดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นมากที่สุด โดยทะยานขึ้น 2.86 ดอลลาร์ หรือ 6.7% แตะ 45.29 ดอลลาร์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--