ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:ดาวโจนส์ดิ่ง 208.10 จุด แม้สหรัฐเผย GDP ขยายตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday July 28, 2007 07:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดรูดลงเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) มากกว่า 200 จุด ซึ่งเป็นการร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 และลดลงรวมกันแล้วมากกว่า 500 จุด  นับเป็นสัปดาห์ที่ย่ำแย่ที่สุดของดัชนี ดาวโจนส์ และ Standard & Poor's 500 ในรอบกว่า 5 ปี
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 208.10 จุด หรือ 1.54% มาอยู่ที่ระดับ 13,265.47 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 23.71จุด หรือ 1.60 % ปิดที่ 1,458.95 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 37.10 จุด หรือ 1.43 % ปิดที่ 2,562.24 จุด
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดาวโจนส์ ร่วงลงไปแล้วมากกว่า 585 จุด หรือ 4.23% โดยดัชนีดาวโจนส์แกว่งตัวก่อนที่จะร่วงลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ทั้งๆที่สัปดาห์ก่อน ดาวโจนส์ พุ่งขึ้นไปยืนเหนือระดับ 14,000 จุดได้เป็นครั้งแรก
แม้ว่า โดยธรรมดาแล้วตลาดจะดีดตัวขึ้นหลังจากดิ่งลงไปลึก เช่นเดียวกับในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เห็นได้ชัดว่าเมื่อวันศุกร์นักลงทุนไม่อาจคลายความกังวลเกี่ยวกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนแอของสหรัฐ
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 เติบโตอัตรา 3.4% ซึ่งดีกว่าคาดการณ์ที่นักเศรษฐศาสตร์ระบุที่ 3.3% แต่ดูเหมือนว่าจะช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลได้เพียงเล็กน้อย และบ่งชี้ว่า GDP ขยายตัวน้อยเนื่องจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ถดถอย
"ผมคิดว่า นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังอย่างมากในช่วงนี้ เราเห็นการเชื่อมโยงของปัจจัยที่เกี่ยวข้องเล็กน้อยหรือไม่เกี่ยวข้องเลยเข้าด้วยกัน" แรนดี้ เฟรดเดอริค นักวิเคราะห์ กล่าวโดยเขาเชื่อว่า การที่ดัชนีจะฟื้นขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 14,000 จุดนั้นเป็นเรื่องยาก
ขณะที่ นักลงทุนไม่ใส่ใจกับการเปิดเผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนกรกฎาคมของม.มิชิแกน ที่ระดับ 90.4 ซึ่งดีขึ้นจากระดับเดือนมิถุนายนที่ 85.3 และดีกว่าคาดการณ์
นอกจากนี้ เขากล่าวว่า นักลงทุนไม่ควรมีปฏิกริยาต่อการทรุดลงของตลาดมากเกินไป เนื่องจากตลาดหุ้นได้พุ่งขึ้นมาก่อนหน้าการร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพฤหัสบดี โดยทั้งปีที่ผ่านมาถึงขณะนี้ ดาวโจนส์ บวกขึ้นแล้ว 10.6% ขณะที่ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 7.04% และ Nasdaq ก็บวกขึ้น 9.64%
ด้านข่าวรายงานผลประกอบการนั้นไม่มีข่าวใหญ่นักสำหรับนักลงทุน เนื่องจาก บริษัทกว่าครึ่งในดัชนี S&P 500 ได้ประกาศผลประกอบการไปแล้วในช่วง 2-3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยข่าวใหญ่ที่สุดมาจากบริษัทผลิตน้ำมันยักษ์ใหญ่ เชฟรอน คอร์ป ที่รายงานผลกำไรรายไตรมาส 2 ทะยานขึ้น 24% เหนือระดับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น หุ้น เชฟรอน ร่วงลง 2.26 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 85.20 ดอลลาร์สหรัฐ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ