ทสภ. จึงสามารถปิดพื้นที่บางส่วนที่ไม่ได้ใช้งาน เพื่อใช้ช่วงเวลานี้ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ ซ่อมบำรุงรักษา และเพิ่มเติมสิ่งอำนวยความสะดวก ในด้านต่างๆ ทั้งภายใน และภายนอกอาคารผู้โดยสารได้อย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาและรักษามาตรฐาน พร้อมให้บริการเมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติ โดยในส่วนของพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสาร และอาคารเทียบเครื่องบิน ทสภ. ได้มีการซ่อมบำรุงและเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ชำรุดทั้งในส่วนระบบลิฟต์ ทางลาดเลื่อน ระบบไฟฟ้า-แสงสว่าง ระบบปรับอากาศ ระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระ ระบบท่อสุขภัณฑ์ รวมทั้งยังได้มีการเปลี่ยนพื้นกระเบื้องที่ชำรุดบริเวณต่างๆ เป็นต้น
สำหรับในส่วนทางวิ่ง ทางขับ ทสภ. ได้มีการตรวจสอบความแข็งแรงของพื้นผิว และอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในพื้นที่เขตการบินให้พร้อมใช้งาน รวมทั้งได้มีการซ่อมบำรุง และเปลี่ยนอุปกรณ์ระบบไฟนำร่องเข้าจอดที่หลุมจอด (Visual Docking Guidance System (VDGS)) และระบบไฟฟ้า-แสงสว่างด้วย
นอกจากนี้ ทสภ. ยังได้มีการบำรุงรักษาพื้นที่ในส่วนอื่นๆ เช่นการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ ระบบลิฟต์ ระบบไฟฟ้า-แสงสว่าง และสุขภัณฑ์ ภายในอาคารจอดรถโซน 2 และโซน 3 และภายในอาคารสำนักงานด้วย
นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ กล่าวว่าถึงแม้ในช่วงนี้จะมีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนน้อย แต่ ทสภ. ยังคงให้ความสำคัญกับการดูแล รักษาความสะอาดในทุกพื้นที่ ภายในอาคารผู้โดยสาร โดยยังจัดให้มีเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกที่ผู้โดยสารสัมผัส เช่น รถเข็นกระเป๋า เก้าอี้นั่งพักคอย แบบ Deep Cleaning ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสาร ผู้ใช้บริการอีกด้วย
นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ กล่าวในตอนท้ายว่า การดำเนินการปรับปรุง แก้ไขอย่างต่อเนื่องในครั้งนี้ ทสภ. ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างเคร่งครัดโดยได้เน้นย้ำให้ผู้ที่ปฏิบัติงานทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัยและถุงมือขณะปฏิบัติงาน และเร่งดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อยพร้อมที่จะให้บริการผู้โดยสาร ทั้งนี้ ทสภ. มุ่งมั่นที่จะพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพในด้านสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คงความเป็น ท่าอากาศยานแห่งชาติที่ได้ระดับมาตรฐานโลกอย่างยั่งยืนตลอดไป