หุ้น MBKET ราคาชนซีลลิ่ง 14.66% มาอยู่ที่ 6.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.85 บาท มูลค่าซื้อขาย 994,190 บาท เมื่อเวลา 10.23 น. โดยเปิดตลาดที่ 6.20 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 6.65 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 6.20 บาท
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ MBKET และบริษัทย่อย ประกาศผลดำเนินงานงวดไตรมาส 1/63 มีกำไรสุทธิ 134.68 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.24 บาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 32.19 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.06 บาท
พร้อมชี้แจงผลการดำเนินงานสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 โดยบริษัทฯมีกำไรสุทธิ 134.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102.49 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 318.39 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 32.19 ล้านบาท สาระสำคัญดังนี้
รายได้ค่านายหน้าเพิ่มขึ้น 172.15 ล้านบาท จาก 335.79 ล้านบาท เป็น 507.94 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 51.27 เนื่องจากรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 137.86 ล้านบาท จาก 304.56 ล้านบาท เป็น 442.42 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 45.27 อันเป็นผลจากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นจาก 44,739 ล้านบาท/วัน เป็น 66,901 ล้านบาท/วัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 49 และสัดส่วนนักลงทุนบุคคลซึ่งเป็นส่วนรายได้หลักของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 36.45 เป็นร้อยละ 37.81 อันเป็นผลให้มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของนักลงทุนบุคคล ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทฯเพิ่มขึ้นจาก 16,673 ล้านบาท/วัน เป็น 25,294 ล้านบาท/วัน หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 52
ส่วนรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 34.29 ล้านบาท จาก 31.23 ล้านบาท เป็น 65.52 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 109.80
รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น 6 ล้านบาท จาก 7.70 ล้านบาท เป็น 13.70 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 77.92 เนื่องมาจากค่าธรรมเนียมจากการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 4 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมจากที่ปรึกษาทางการเงินเพิ่มขึ้น 1.50 ล้านบาท และค่าธรรมเนียมและบริการอื่นเพิ่มขึ้น 0.50 ล้านบาท
รายได้อื่นลดลง 13.84 ล้านบาท จาก 243.63 ล้านบาท เหลือ 229.79 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 5.68 เนื่องมาจาก รายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ลดลง 11.07 ล้านบาท กำไรจากเงินลงทุนและตราสารอนุพันธ์ลดลง 1.03 ล้านบาท และรายได้อื่นลดลง 1.74 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายรวมของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น 34.06 ล้านบาท จาก 547.44 ล้านบาท เป็น 581.50 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.22 เนื่องมาจาก ค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงาน และ ค่าธรรมเนียมและบริการจ่าย เพิ่มขึ้น 32.96 ล้านบาท และ 22.06 ล้านบาท ตามลำดับ ในขณะที่ ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง 2.67 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายอื่นลดลง 16.08 ล้านบาท และหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญลดลง 0.29 ล้านบาท โดยในงวดปัจจุบัน บริษัทฯมีรายการโอนกลับผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ค่าใช้จ่ายลดลง) จำนวน 1.92 ล้านบาท
ทั้งนี้ รายการโอนกลับผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เป็นผลมาจากการนำมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 "เครื่องมือทางการเงิน" ซึ่งเป็นมาตรฐานฉบับใหม่ มาถือปฎิบัติในงวดปัจจุบัน
ภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น 27.77 ล้านบาท จาก 7.49 ล้านบาท เป็น 35.26 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 370.76 เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้