นายดอน จรรย์ศุภรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า ซิตี้ยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในระยะยาว โดยคาดว่าจะได้เห็นการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งปีหลัง และคาดว่าในปี 64 ตลาดจะมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งในปี 63 ประเมินการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกติดลบ 2.3% โดยสหรัฐฯจะมีการเติบโตติดลบ 2.6% แต่ในภูมิภาคเอเชียจะยังคงมีการเติบโตราว 2% นำโดยจีนซึ่งจะยังมีการเติบโต 2.4% ในปีนี้
โดยการเติบโตของจีนที่เป็นผู้นำในเอเชียมาจากความสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้และมีการยกเลิกมาตรการปิดเมือง หลังจากที่จีนเริ่มเปิดเมืองและกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ซึ่งเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตัวเลขเชิงเศรษฐกิจในจีนอย่างมีนัยสำคัญ เช่น Industrial Production และ PMI และตัวเลขสำคัญอีกตัวหนึ่ง คือ ปริมาณการสัญจรในเมืองใหญ่ ที่ฟื้นตัวกลับมาเกือบ 100% ซึ่งถ้าหากตัวเลขเหล่านี้ยังคงระดับที่ดีต่อไปอีก 2-3 เดือนข้างหน้า จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนอย่างยั่งยืนมากขึ้น ทำให้มีมุมมองแนะนำการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นทางฝั่งประเทศเอเชีย
ในส่วนของประเภทสินทรัพย์ที่น่าลงทุนหลังจากเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวขึ้นมองว่ากลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสุขภาพ กลุ่มโทรคมนาคม และเทคโนโลยี Digitalization เป็นกลุ่มที่น่าสนใจ โดยประเมินความน่าสนใจโดยการลดน้ำหนักในการลงทุนในหุ้นลงเป็นระดับ Neutral และเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐของสหรัฐอเมริกา และการลงทุนในทองคำเนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงปลอดภัยและมีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งจะสามารถช่วยเสริมความมั่นคงให้กับพอร์ตการลงทุน สำหรับนักลงทุนที่ต้องการบริหารความมั่งคั่งและกระจายความเสี่ยงในภาวะตลาดที่มีความผันผวน
ขณะเดียวกันซิตี้โกลด์ได้เปิดตัวการลงทุนในกองทุนรวมใหม่ Pictet CH Precious Metals – Physical Gold โดยกองทุนดังกล่าวเป็นการลงทุนในทองคำแท่งแท้ 100% ที่ทำการเก็บทองคำในคลังนิรภัยของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หนึ่งในประเทศที่มีความปลอดภัยมากที่สุดในโลก โดยกองทุนดังกล่าวให้ผลตอบแทน 5 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 32.21% ซึ่งกองทุนนี้เปิดโอกาสให้สำหรับลูกค้าซิตี้โกลด์ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงและลงทุนโดยตรงในกองทุนจากต่างประเทศ
นอกจากกองทุนทองคำแล้ว ซิตี้โกลด์ยังนำเสนอการบริการความมั่งคั่ง ในการกระจายการลงทุนได้ทั่วโลกกว่า 200 กองทุน จากพาร์ทเนอร์ทางการเงินที่หลากหลายกับ 6 บลจ.ในประเทศและ 13 บลจ.ต่างประเทศ โดยมีความหลากหลายของกองทุนทั้งประเภทของสินทรัพย์ และภูมิภาคของการลงทุน ซึ่งเป็นการกระจายความเสี่ยงของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี