นายยุทธพล ลาภละมูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.ภัทร บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เปิดเผยว่า บลจ. ภัทร เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออม กองทุนเปิดภัทร สตราทิจิค แอสเซ็ท อโลเคชั่น (PHATRA SG-AA-SSF) ให้ผู้ลงทุนสามารถเริ่มลงทุนได้ตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.63 เป็นต้นไป ตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนระยะยาวในทรัพย์สินหลากหลายประเภทเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน
อีกทั้งผู้ลงทุนยังสามารถนำมูลค่าซื้อหน่วยลงทุนในหน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออม (SSF) ไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินและไม่เกิน 200,000 บาท ภายใต้เงื่อนไขว่าเมื่อรวมกับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ประกันบำนาญ และกองทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท ตามเงื่อนไขและวิธีการที่กฎหมายกำหนด
PHATRA SG-AA-SSF เป็นหนึ่งในกองทุน Flagship ของ บลจ.ภัทร ที่มีนโยบายกระจายการลงทุนในทรัพย์สินต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ ตราสารทุน ตราสารหนี้ ตลอดจนทรัพย์สินทางเลือก เช่น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทองคำ และน้ำมัน โดยสัดส่วนการลงทุนในทรัพย์สินแต่ละประเภทอยู่ภายใต้กรอบการกระจายการลงทุนหรือ Asset Allocation ที่วิเคราะห์มาโดยทีมที่ปรึกษาการลงทุนที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์เศรษฐกิจของบล. ภัทร
อีกทั้งยังมีทีมผู้จัดการกองทุนของ บลจ.ภัทร ที่เชี่ยวชาญการวิเคราะห์ตราสารและโอกาสการลงทุน ทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์และคัดเลือกสินทรัพย์สำหรับลงทุน โดยพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐาน และคอยปรับสัดส่วนการลงทุนในทรัพย์สินแต่ละประเภทตามสภาวะตลาด ทำให้ผู้ลงทุนไม่ต้องกังวลกับการปรับสัดส่วนการลงทุนด้วยตนเอง
ในขณะที่ภาวะตลาดการลงทุนทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยในช่วงนี้ ยังคงมีความผันผวนสูง เนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง แต่การที่ยังไม่มีวัคซีนและยารักษาโรคดังกล่าวได้ ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคแม้เมื่อมีการเปิดเมืองและเริ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้งน่าจะยังมีแนวโน้มที่จะเป็นไปอย่างระมัดระวัง ตลอดจนยังคงมีความเสี่ยงของการเกิดการระบาดรอบสองได้
นอกจากนี้ ปัญหาของอุปทานน้ำมันดิบที่มากเกินกว่าความต้องการใช้ที่หดตัวลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบลดลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี ทำให้มีโอกาสที่บริษัทในธุรกิจขุดเจาะน้ำมันบางแห่งอาจจะล้มละลายได้ นับเป็นปัจจัยที่กระทบต่อการลงทุนทั้งตลาดตราสารทุนและตราสารหนี้ทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม การที่ธนาคารกลางและรัฐบาลของประเทศต่างๆทั่วโลก ได้ออกมาตรการทั้งทางการเงินและการคลังเป็นจำนวนมากช่วยให้สภาพคล่องในระบบยังคงมีอยู่สูงพอสมควร
"ทั้งนี้ แม้ว่าภาพรวมการลงทุนทั่วโลกยังคงมีความไม่แน่นอน แต่หากพิจารณาโอกาสของการลงทุนระยะยาวสำหรับ SSF ที่กำหนดการถือหน่วยลงทุนเป็นเวลาอย่างน้อย 10 ปี บลจ. ภัทร มองว่าการลงทุนใน PHATRA SG-AA-SSF ซึ่งกระจายการลงทุนไปในทรัพย์สินประเภทต่าง ๆ ย่อมจะช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนและช่วยสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาวให้กับผู้ลงทุน ภายใต้สภาวะตลาดการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา"นายยุทธพล กล่าว