ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ประกาศว่าจีอี มันนี่ ผู้ถือหุ้นใหญ่รายหนึ่งของธนาคาร (ถือหุ้นในนาม จีอี แคปปิตอล อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง คอร์ปอเรชั่น)ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในธนาคารขึ้นเป็น 31% (หลังใบสำคัญแสดงสิทธิแปลงสภาพเต็มจำนวนแล้ว) โดยได้รับการอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)และกระทรวงการคลัง
ทั้งนี้ เป็นไปตามที่ผู้ถือหุ้นธนาคารได้อนุมัติไว้เมื่อปีที่แล้ว โดยจีอี มันนี่ ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 444.7 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าการลงทุนเพิ่ม 7,115 ล้านบาท (ประมาณ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ) ส่งผลให้อัตราส่วนเงินกองทุนของธนาคาร (CAR) แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเป็น 19%
นายวีระพันธุ์ ทีปสุวรรณ ประธานกรรมการ BAY กล่าวว่า ความเป็นพันธมิตรของธนาคาร กับ จีอี มันนี่ ได้คืบหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง และได้เกิดขึ้นเร็วกว่าแผนที่วางไว้ จึงมั่นใจว่าธนาคารจะได้รับผลประโยชน์จากการเป็นพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ
"มองว่า นี่เป็นอีกก้าวที่ส่งผลบวกต่อธนาคาร โดยกลุ่มรัตนรักษ์ซึ่งถือหุ้น 26% ก็ยินดีในเรื่องนี้ และพร้อมจะให้การสนับสนุนธนาคารฯ ต่อไป" นายวีระพันธุ์กล่าว
นายโยชิอากิ ฟูจิโมริ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จีอี มันนี่ เอเชีย กล่าวว่า ความประสงค์ของ จีอี มันนี่ ในการเพิ่มการถือหุ้นในธนาคารฯ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในธนาคารกรุงศรีอยุธยา ความเชื่อมั่นในอนาคตของธุรกิจธนาคารในประเทศไทย รวมถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศในระยะยาว ในฐานะนักลงทุนต่างชาติ
การที่ รมว.คลังได้อนุมัติการเพิ่มการลงทุนในครั้งนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนของรัฐบาลในการสนับสนุนการลงทุนทางตรงของนักลงทุนต่างชาติ กลุ่มจีอีมีเป้าหมายที่จะเร่งเสริมสร้างพลังพันธมิตรใน BAY
ด้านนายตัน คอง คูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ BAY กล่าวว่า เงินทุนที่เข้ามาเพิ่มในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้คณะผู้บริหารในการวางแผนขยายธุรกิจและการสร้างความเติบโตให้กับธนาคาร เชื่อมั่นว่า พลังพันธมิตรที่แข็งแกร่งและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นนี้ จะช่วยสนับสนุนให้ธนาคารบรรลุเป้าหมายการเป็นธนาคารที่ให้บริการครบวงจรมากที่สุดในประเทศไทย ตามวิสัยทัศน์ที่ได้วางไว้
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/ศศิธร/เสาวลักษณ์ โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--