นายอภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) เปิดเผยว่า ภาพรวมเบี้ยประกันภัยรับรวมของบริษัทในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 8% จากปีก่อนที่มีเบื้อประกันภัยรับ 21,008.9 ล้านบาท แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจจะชะลอตัวและยังมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง เบี้ยประกันภัยบางกลุ่มลดลง อาทิ ประกันภัยเครื่องบิน เนื่องจากบริษัทต้องคืนเบี้ยกลับไปให้กับสายการบินบางส่วน หลังประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลให้ไม่สามารถเปิดเส้นทางบินได้ แต่อย่างไรก็ตามบริษัทได้เข้ารับประกันโครงการประกันภัยข้าวนาปีทดแทน ซึ่งมีการเติบโตมากกว่า 2 เท่าตัว
"หลายๆภาคส่วนมีผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งในส่วนของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การลงทุน และบริโภค แต่อย่างไรก็ตามยังมีส่วนที่จะสามารถขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้บ้าง คือการลงทุน และการใช้จ่าย ของภาครัฐ โดยเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมีโครงการต่างๆออกมา ซึ่งเป็นโอกาสที่บริษัทจะเข้ารับงานตรงจากโครงการต่างๆที่ออกมา เราจึงมั่นใจว่าเบี้ยประกันภัยรับรวมปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
สำหรับพอร์ตการลงทุน ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 62 บริษัทมีเงินลงทุนในหลักทรัพย์อยู่ที่ 44,958 ล้านบาท ประกอบด้วย พันธบัตรรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ 3,661 ล้านบาท ตราสารหนี้ภาคเอกชนอยู่ที่ 956 ล้านบาท และ ตราสารทุนอยู่ที่ 7,634 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงอีก 21,487 ล้านบาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน(Return on Investment: ROI) 6.6% ของมูลค่าเงินลงทุนตามราคาทุน หรือ 3.6% ของมูลค่าเงินลงทุนตามราคาตลาด
นายอภิสิทธิ์ กบ่าวว่า ในช่วงนี้มองว่าเป็นช่วงที่เหมาะสมที่จะเข้าซื้อหุ้นสะสมในตลาดหุ้นไทย หลังจากที่ดัชนีปรับตัวลดลงมาเอต่อการลงทุน จากที่ช่วงปลายปีได้มีการขายหุ้นในตลาดหุ้นไทยไปบางส่วนซึ่งมีผลตอบแทนค่อนข้างดี ส่งผลให้พอร์ตลงทุนของบริษัทมีผลตอบแทนที่ดี
ส่วนประกันภัยไวรัสโคโรนา เจอ จ่าย สร้างยอดขายในไตรมาส 1/63 ของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 6 แสนกรมธรรม์ โดยมีอัตราการเคลมประกันประมาณ 2% แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าทั้งปีการเคลมจะเพิ่มขึ้นอย่างไร เนื่องจากอายุกรมธรรม์มีอายุ 1 ปี ขึ้นอยู่กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสว่าจะสามารถยุติลงได้เมื่อใด