บริษัทจดทะเบียน(บจ.)ระบุได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่า มีทั้งผลดีและ ผลเสีย แต่มากหรือน้อยขึ้นกับการบริหารจัดการความเสี่ยงของแต่ละแห่ง มองมาตรการดูแลบาทของทางการเห็นผลในระยะกลางและยาวมากกว่า คงไม่เกิดในระยะสั้น
นางเพ็ญศรี สุธีรศานต์ ผู้อำนวยการสมาคมบริษัทจดทะเบียน เปิดเผย หลังการเสวนา" บริษัทจดทะเบียนควรปรับตัวอย่างไร เพื่อรับมือกับความผันผวนของค่าเงินบาท" ว่า จากการสำรวจบริษัทจดทะเบียนที่มาจำนวน 120 บริษัทพบว่าใน 40 บริษัทมีประมาณ 95% ที่ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งด้านรายได้และค่าใช้จ่าย แต่ในขณะเดียวกันก็ได้มีการป้องกันความเสี่ยงรายได้ที่รับเป็นเงินสกุลต่างประเทศโดยการทำประกันความเสี่ยง(Forword) รวมทั้งบริษัทจดทะเบียนยังเห็นด้วยในการถือดอลล่าร์ระยะยาวมากขึ้น
นางเพ็ญจันทร์ จริเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ การเงินองค์กร บมจ.ปตท. (PTT) กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าการที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจะต้องส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนทุกรายได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากส่วนต่างจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลง แต่การที่จะกระทบมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการความเสี่ยงที่เกิดขึ้นอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่พบว่า มีการป้องกันความเสี่ยงล่วงหน้าไว้แล้ว ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก อย่างไรก็ตามค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นจะมีข้อดีในแง่สามารถคืนหนี้ก่อนกำหนดในระดับที่ถูกลง
ในส่วนการบริหารความเสี่ยงของหนี้เงินกู้ต่างประเทศของปตท. นั้นบริษัทมีหนี้ต่างประเทศทั้งหมด 1,600 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นการออกหุ้นกู้ที่ห้ามคืนก่อนกำหนด จึงไม่สามารถชำระหนี้คืนก่อนกำหนดได้ แม้ว่าจะได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น แต่บริษัทได้ป้องกันความเสี่ยงมาตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยการกำหนดการจ่ายเงินกู้ให้เป็นอัตราเดียวกับรายได้(Hedging) ซึ่งได้แนะนำให้กับบริษัทจดทะเบียนรายอื่นๆด้วย เพื่อเป็นแแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น
ด้านคุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม กรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า 6 มาตรการในการรองรับความผันผวนของค่าเงินบาทของทางการจะปฏิบัติได้จริงหรือไม่นั้น คงไม่ได้เกิดในระยะสั้น แต่น่าจะเห็นผลในระยะกลางและยาวมากกว่า ซึ่งในระยะสั้นอาจส่งผลดีต่อจิตวิทยาต่อผู้ประกอบการและนักลงทุนที่ทางการมีมาตรการออกมาควบคุม โดยมาตรการที่ออกมาก็ถือเป็นแนวทางที่ดี และอยู่ในทิศทางที่ถูกต้องแต่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องช่วยตัวเองด้วย
ทั้งนี้ มองว่ามาตรการที่ออกมาอาจจะมีมาตรการออกมาเพิ่ม เพราะอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนมากทำให้เดือดร้อน ซึ่งทางการก็ได้ออกมาตรการเพื่อลดความผันผวน การที่ค่าเงินบาทแข็งค่า อย่างน้อยส่งผลให้ต้นทุนการผลิตต่ำลง และได้ประโยชน์ที่จะกระจายความเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม การที่ค่าเงินบาทแข็งค่าก็ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ที่กู้เงินตราต่างประเทศ จะสามารถชำระหนี้ได้เร็วขึ้น รวมถึงเป็นโอกาสในการลงทุนโดยเฉพาะการซื้อเครื่องมือเครื่องจักรซึ่งจะได้ระดับราคาถูก
“การเปิดประตูทางออกเพื่อให้เม็ดเงินไหลออก อาจจะเป็นโอกาสที่จะควบคุมค่าเงินบาท จากที่ผ่านมาค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็วประกอบกับค่าเงินสหรัฐที่อ่อนลง การชำระหนี้นั้น ขึ้นอยู่กับสัญญาที่ตกลงกันไว้ว่าเปิดโอกาสให้ชำระหนี้ได้ก่อนหรือไม่ หรือยอมที่จะเสียค่าปรับ ต้องพิจารณาว่าอย่างไหนคุ้มค่ากว่ากัน" คุณหญิงชฎา กล่าว
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ KEST เปิดเผยว่า สำหรับมาตรการเกี่ยวกับค่าเงินบาทที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีอนุมัติเพื่อป้องกันไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งค่านั้น ถือว่าไม่กระทบต่อตลาดทุน แต่ควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เมื่อตลาดทุนมีการพัฒนา มีคนสนใจมาลงทุน อาจระดมออกหุ้น ทั้งหุ้นกู้หรือใบสำคัญแสดงสิทธิ์
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/เสาวลักษณ์ โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--