นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/63 มีกำไรสุทธิ 1,237 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 232 ล้านบาท หรือ สูงขึ้น 23.08% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 1,005 ล้านบาท โดยมียอดสินเชื่อคงค้างจำนวน 62,539 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,947 ล้านบาท หรือ 23.61% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 50,592 ล้านบาท ปัจจุบัน บริษัทฯมีสาขาจำนวน 4,473 สาขา จาก 4,700 สาขาที่ตั้งเป้าไว้ในปีนี้ ขณะที่คุณภาพหนี้หรืออัตราส่วนหนี้เสียสำหรับไตรมาส 1/63 อยู่ที่ 1.18% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีสาระสำคัญจากไตรมาสที่แล้ว
"แม้ว่าในปีนี้จะเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดคือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เข้ามา แต่เรายังคงเชื่อมั่นว่าการดำเนินงานด้วยความระมัดระวังตามแผนการพัฒนาอย่างยั่งยืนจะช่วยให้ผลการดำเนินงานในปีนี้ จะสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของพอร์ตสินเชื่อ รายได้ และกำไร โดยคาดว่าสินเชื่อในปีนี้จะเติบโต 20-25% และสามารถคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ไม่ให้เกิน 2% ตามเป้าหมายที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี"
นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า MTC มีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับการชำระหุ้นกู้ที่ถึงกำหนดไถ่ถอนในปีนี้ และเพียงพอสำหรับการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ แม้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะขอความร่วมมือให้บริษัทฯช่วยเหลือลูกค้าในการพักชำระหนี้ และลดการชำระค่างวดลงก็ตาม ยิ่งกว่านั้น MTC ยังได้รับการจัดสรรในวงเงิน 5,000 ล้านบาท จาก Soft Loan ของกระทรวงการคลังที่ให้กลุ่มนอนแบงก์กู้ผ่านธนาคารออมสินในอัตราดอกเบี้ย 2% ระยะเวลา 2 ปี เพื่อนำไปปล่อยกู้ช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องจากผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จึงเชื่อว่าจะมีส่วนสำคัญที่ทำให้สินเชื่อขยายตัวต่อไปได้อย่างแข็งแกร่ง และส่วนหนึ่งช่วยลดความเสี่ยงหนี้เสียให้กับบริษัทฯได้อีกด้วย