ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวควบรวมกิจการก่อนที่บริษัทเอกชนจะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 โดยเฉพาะข่าวที่ว่าบริษัท เกอร์ดู อเมริสตีล คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเหล็กกล้า กำลังเข้าซื้อกิจการบริษัทคู่แข่งอย่าง แชพพาเรล สตีล มูลค่า 4.22 พันล้านดอลลาร์ และข่าวที่ว่าบริษัทคอลเกต-ปาล์มโอลีฟ ให้ความสนใจเข้าซื้อกิจการ ยูนิลิเวอร์
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 76.17 จุด หรือ 0.56% ปิดที่ 13,577.87 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 8.64 จุด หรือ 0.57% ปิดที่ 1,518.76 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 12.63 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 2,651.79 จุด
ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.53 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 9 ต่อ 7 ขณะที่ปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.05 พันล้านหุ้น
นอกเหนือจากข่าวควบรวมกิจการแล้ว ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นายชาร์ลส์ พลอสเตอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย ได้แสดงความคิดเห็นว่า "ในการรับมือกับความเสี่ยงเรื่องเงินกู้เพื่อการซื้อบ้านนั้น สหรัฐควรจะใช้ระบบการเงินแผนใหม่จัดการกับเรื่องนี้" ขณะที่นายเควิน วอร์ช ผู้ว่าการเฟดอีกคนหนึ่งกล่าวว่า แม้ปัญหาที่เกิดขึ้นในธุรกิจปล่อยกู้จำนองแบบซับไพร์มยังไม่หมดไป แต่เขาเชื่อว่าป้ญหาดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่าน้ำมันเบนซินสำรองปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด
อย่างไรก็ตาม นายฮิวจ์ จอห์นสัน นักวิเคราะห์จากบริษัทจอห์นสัน อิลลิงตัน แอดไวเซอร์สกล่าวว่า "แม้ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวกได้ แต่นักลงทุนบางกลุ่มยังมีท่าทีกังวลเรื่องผลประกอบการของบริษัทหลายแห่ง โดยนักลงทุนเหล่านี้ชะลอการซื้อขายลง จนกว่าจะได้เห็นตัวเลขผลประกอบการ"
ทั้งนี้ หุ้นเชฟรอนพุ่งขึ้น 1.67 ดอลลาร์ ปิดที่ 90.67 ดอลลาร์ หลังจากบริษัทเชฟรอนคาดการณ์ว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 จะแข็งแกร่งเพราะได้รับแรงหนุนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้น
ขณะที่หุ้นเกอร์ดู อเมริสตีล ร่วงลง 7.7% หลังจากมีข่าวว่าบริษัทเกอร์ดูจะเข้าซื้อบริษัทผลิตเหล็กคู่แข่งอย่าง แชพพาเรล อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นแชพพาเรลทะยานขึ้น 10.5%
ส่วนหุ้นยูนิลิเวอร์พุ่งขึ้น 3.2% และหุ้นคอลเกต-ปาล์มโอลีฟ ปรับตัวขึ้น 1.08 ดอลลาร์ ปิดที่ 66.85 ดอลลาร์ หลังจากมีข่าวว่าคอลเกตให้ความสนใจเข้าซื้อกิจการ ยูนิลิเวอร์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--