แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ในฐานะกำกับดูแล บมจ.การบินไทย (THAI) ขอเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นการส่วนตัวที่ห้องทำงานภายในทำเนียบรัฐบาล โดยคาดว่าจะเป็นการหารือแนวทางการฟื้นฟูกิจการของ THAI หลังจากที่แผนงานดังกล่าวเลื่อนการนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์นี้
ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ นายนเรศ ผึ้งแย้ม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย นำตัวแทนเข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อแสดงจุดยืนของสหภาพฯ ที่ไม่เชื่อมั่นต่อแผนฟื้นฟูการปฏิรูปการบินไทยของผู้บริหาร ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ส่งสัญญาณการช่วยเหลือครั้งสุดท้าย
ทางสหภาพฯ เองก็เห็นด้วยกับแผนฟื้นฟูเพราะถือว่าเป็นทางรอดทางเดียว แต่ในส่วนของพนักงานการบินไทยกว่า 2 หมื่นคนขอเข้าไปมีส่วนร่วมในแผนดำเนินการทุกขั้นตอน เพราะหากจะปรับปรุงองค์กรของเรา พนักงานทุกคนก็ยินดีให้ความร่วมมือ ซึ่งอดีตที่ผ่านมามีการฟื้นฟูแล้ว 3 ครั้ง แต่พนักงานไม่เคยมีส่วนร่วมและไม่มีโอกาสได้รับรู้ เพราะหากนายกรัฐมนตรีอนุมัติแผน และไม่ได้รับการมีส่วนร่วมของพนักงาน ก็เหมือนเอาเงิน 5 หมื่นล้านไปจมเหมือนเดิม แต่หากเข้าไปมีส่วนร่วมก็เชื่อมั่นว่าแผนฟื้นฟูจะไปได้ แต่หากจะจบก็พร้อมจะจบไปพร้อมกับบอร์ดผู้บริหารในองค์กรด้วย
"ที่ผ่านมาการบินไทยเขียนแผนมากู้เงินเฉยๆ แต่เอาเงินไปทำอย่างอื่น เราไม่มีโอกาสเห็นแผนหรือพูดคุย ดังนั้นทางกลุ่มจึงไม่เชื่อมั่น หากไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับแผนฟื้นฟู ซึ่งจะต้องเปิดโอกาสให้คนใน อย่างสภาพเข้าไปตรวจสอบการบริหารจัดการของบอร์ดในการบริหารงบประมาณว่านำไปใช้คุ้มค่าเอาไปอุดรูรั่วจริงหรือไม่ หรือเอาไปสร้างหนี้ สร้างปัญหาใหม่ให้กับพนักงานหรือไม่"นายนเรศ กล่าว
ส่วนที่โซเชียลวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเข้ามาอุ้มการบินไทย ประธานสหภาพฯ ย้ำว่าเราเป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งระบบเดิมการกู้เงินแต่ละครั้งรัฐบาลเป็นผู้กู้ รัฐบาลเป็นหนี้แทนเรา ถือเป็นหนี้สินของประเทศ แต่หลังจากปี 52 รัฐบาลได้ผลักให้เป็นหนี้ของตัวรัฐวิสาหกิจเอง ดังนั้นเงินทุกบาททุกสตางค์ใน 5 หมื่นล้านบาทนี้เป็นเงินกู้ที่รัฐบาลเพียงค้ำประกันให้ ทุกบาทพวกเราต้องเป็นคนหาเงินมาจ่ายหนี้เอง