นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ต้องเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อเป็นการหยุดการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น พบว่าช่วง 1 – 2 เดือน ที่ผ่านมาการซื้อขายทองคำออนไลน์เป็นหนึ่งในสินค้าที่นักลงทุนสนใจ โดยพบว่ามีทั้งการซื้อในรูปแบบของการลงทุนและการซื้อเพื่อเป็นของขวัญและเครื่องประดับ พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนจากเดิมที่เดินทางมาซื้อที่สาขาที่เป็นหน้าร้านมาสู่การซื้อแบบออนไลน์มากขึ้น
ส่วนหนึ่งมองว่ามาจากการใช้ชีวิตของผู้คนยุคปัจจุบันที่ไม่มีเวลาเดินทางไปหน้าร้าน เพราะติดปัญหาด้านการเดินทาง และช่วงเวลาที่ร้านเปิดเป็นช่วงเวลาทำงาน ขณะที่การซื้อในช่องทางออนไลน์สามารถซื้อได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้จะว่าเลิกงานตอนกลางคืนก็สามารถซื้อทองในช่วงกลางดึกได้ สามารถส่งเป็นของขวัญให้กับคนพิเศษได้ทันท่วงที ขณะเดียวกันในส่วนของการซื้อเพื่อลงทุนการซื้อออนไลน์ก็มีความสะดวก ปลอดภัย เพราะสามารถซื้อได้ในเวลาเดียวกับตลาดต่างประเทศเปิดทำการซื้อขาย และยังสามารถฝากทองไว้กับผู้ค้าอีกด้วย
ดังนั้น YLG จึงปรับระบบการให้บริการเพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เกิดขึ้น ด้วยการเพิ่มทีมงานเดลิเวอรี่ รวมถึงให้บริการผ่านไปรษณีย์ที่ให้การรับรองด้านความปลอดภัย และมีใบรับประกันให้ลูกค้า เมื่อลูกค้าได้รับสินค้าแล้วไม่พอใจสามารถส่งกลับมาโดยระบบเดลิเวอรี่ โดยที่ลูกค้าไม่ต้องเดินทางมาเปลี่ยนที่หน้าร้าน ซึ่งบริการมีตลอด 24 ชั่วโมง สามารถกดซื้อและจ่ายเงินผ่านสมาร์ทโฟนได้ทันที โดยราคาของการซื้อขายออนไลน์ก็เป็นไปตามที่สมาคมค้าทองคำประกาศ
"การซื้อขายผ่านออนไลน์สร้างความปลอดภัยให้ลูกค้าไม่ต้องเสี่ยงเดินทางมาพบปะผู้คน จึงกลายเป็น New Normal ของธุรกิจค้าทองคำ ส่วนขนาดทองคำที่เราขายอยู่ก็ถูกปรับให้มีขนาดเล็กลง เช่น ทองคำแท่งมูลค่า 1,000 บาท ทำให้ผู้คนนิยมซื้อเพื่อเป็นของขวัญกันมากขึ้น" นางพวรรณ์ กล่าว
ในด้านของการลงทุนในทองคำนั้น แม้ปีนี้ราคาทองคำจะปรับขึ้นมามากแล้ว จึงอาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาเป็นระยะ แต่มองว่าทิศทางระยะยาวยังเป็นขาขึ้นไป ตราบใดที่ยังไม่สามารถผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้มากเพียงพอ รวมถึงธนาคารกลางและหลายประเทศทั่วโลกยังคงดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งทางการเงินและการคลัง บวกรวมกับความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับกระเด็นต้นตอการระบาดโควิด-19 เป็นอีกปัจจัยที่เพิ่มความน่าดึงดูดของทองคำ
ทั้งนี้ มองแนวต้านแรกอยู่ที่จุดสูงสุดเดิมของปีนี้ คือ 1,747 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ หรือ 26,600 บาท หากผ่านไปได้มีลุ้นไปจะไปทดสอบเป้าหมายของปีนี้ที่ 1,788-1,795 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ หรือ 27,200-27,350 บาท
อย่างไรก็ตาม การที่ราคาทองคำยังอยู่ในขาขึ้นนี้ก็สนับสนุนให้การซื้อ-ขายผ่านออนไลน์ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น เพราะนักลงทุนสามารถสั่งซื้อได้ตามปริมาณที่ต้องการ และสามารถส่งคำสั่งขายได้ทันทีเมื่อถึงจุดที่พอใจ โดย YLG ก็ได้ปรับรูปแบบการให้บริการเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปัจจุบัน ด้วยการปรับโปรแกรมให้นักลงทุนเริ่มต้นการลงทุนได้ด้วยเงินลงทุนเพียง 10 บาท ผ่าน www.ylggoldsaving.com โดยจะเป็นการลงทุนเพื่อสะสมไปจนกว่าจะได้ครบ 1 สลึงแล้วขายเพื่อรับทองกลับไป หรือจะลงทุนเพื่อขายทำกำไรที่สามารถทำได้ตลอดเวลา
นอกจากนั้น ทาง YLG เองได้ทำการปรับลดหน่วยของการลงทุนทองคำให้สามารถเข้าลงทุนได้ด้วยเงิน 10 บาทนั้น ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการปรับตัวรองรับการใช้เงินดิจิทัลของผู้บริโภคที่กำลังจะมาถึง ดังนั้นการเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมผู้คนให้เริ่มหันมาออมทองคำในรูปแบบออนไลน์ก็จะทำให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป