สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (5 - 8 พฤษภาคม 2563) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 233,535.42 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 77,845.14 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 33% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของ ตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 62% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 145,934 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่ แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 78,170 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออก โดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 6,622 ล้านบาท หรือคิดเป็น 33% และ 3% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB24DB (อายุ 4.6 ปี) LB28DA (อายุ 8.6 ปี) และ LB26DA (อายุ 6.6 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละ รุ่นเท่ากับ 14,497 ล้านบาท 7,406 ล้านบาท และ 7,294 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รุ่น TLT215A (AAA) มูลค่าการซื้อขาย 998 ล้านบาท หุ้นกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) รุ่น BAY21NA (AAA(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 758 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด รุ่น MPSC229A (A+) มูลค่าการซื้อขาย 326 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับลดลงประมาณ 5-9 bps. จากปริมาณการซื้อขายซึ่งค่อนข้างเบาบาง ด้านปัจจัยในประเทศ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อ ในเดือน เม.ย.63 อยู่ที่ 99.75 ลดลง -2.99% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง -2.03% จากเดือน มี.ค.63 เนื่องจากการลดลงของสินค้าในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงที่ราคาลดลงต่ำสุดในรอบกว่า 11 ปี ด้านปัจจัยต่างประเทศ สหรัฐฯ รายงานตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนประจำเดือน เม.ย. 63 ปรับลดลง 20,236,000 ตำแหน่ง ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับลดลง 22,000,000 ตำแหน่ง ทั้งนี้ตลาดติดตามรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ประจำเดือน เม.ย. ในสัปดาห์หน้า (12 พ.ค.)
สัปดาห์ที่ผ่านมา (5 พ.ค. 63 - 8 พ.ค. 63) มีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 1,168 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น (ST) (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 162 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (LT) (อายุมากกว่า 1 ปี) 1,346 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ 16 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (5 - 8 พ.ค. 63) (27 - 30 เม.ย. 63) (%) (1 ม.ค. - 8 พ.ค. 63) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 233,535.42 351,055.78 -33.48% 8,289,614.21 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 77,845.14 87,763.94 -11.30% 95,282.92 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 118.97 118.5 0.40% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 105.41 105.37 0.04% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (8 พ.ค. 63) 0.45 0.53 0.59 0.69 0.85 1.13 1.34 2.15 สัปดาห์ก่อนหน้า (30 เม.ย. 63) 0.48 0.58 0.64 0.74 0.91 1.21 1.36 2.24 เปลี่ยนแปลง (basis point) -3 -5 -5 -5 -6 -8 -2 -9