นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะพักฐาน ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวในแดนลบเล็กน้อยราว 0.1-0.3% หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น ทั้งในเยอรมนี และเกาหลีใต้ ขณะที่ไทยยังควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ดี ทำให้วันนี้จะต้องติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในประเด็นการคลายล็อกดาวน์ ระยะ 2
นอกจากนี้ ตลาดบ้านเราก็ปรับตัวขึ้นไปเร็วจนเข้าใกล้ระดับ 1,300 จุด ทำให้ Valuation เริ่มตึงตัว อย่างไรก็ดีวันนี้ให้ติดตามดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย. ของจีน และสหรัฐฯ รวมถึงติดตามการทบทวนการปรับน้ำหนักลงทุนของ MSCI
พร้อมแนวรับ 1,278-1,270 จุด ส่วนแนวต้าน 1,294-1,300 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (11 พ.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,221.99 จุด ลดลง 109.33 จุด(-0.45%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,930.32 จุด เพิ่มขึ้น 0.52 จุด (+0.02%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,192.34 จุด เพิ่มขึ้น 71.02 จุด ( +0.78%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 22.57 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.18 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 244.06 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 38.75 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.22 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 28.76 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.87 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 พ.ค.63) 1,287.30 จุด เพิ่มขึ้น 21.28 จุด (+1.68%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,364.79 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 พ.ค.63
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (11 พ.ค.63) ปิดที่ 24.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 60 เซนต์ หรือ 2.4%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 พ.ค.) อยู่ที่ -0.06 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.20 อ่อนค่าจากวานนี้ ตลาดกลับมากังวลโควิด-19 ระบาดใหม่หลังหลายปท.คลายล็อกดาวน์
- ผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรม เผยโควิดฉุดยอดขายพื้นที่ 20-30% แนะรัฐออกแพ็คเกจดึงดูดการลงทุนช่วยเหลือช่วงโควิด-19 ทั้งมาตรการภาษี ลดค่าธรรมเนียม "ดับบลิวเอชเอ" คาดครึ่งปีหลัง ดีขึ้น กนอ.เร่งคลอดมาตรการช่วยเหลือ
- คมนาคม ชะลอชง ครม. เคาะแผนฟื้นฟูการบินไทย อ้างต้องทำแอ็คชั่นแพลน เผยเสนอขายหุ้นคลัง 2% เลิกใช้ พ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์เพิ่มความคล่องตัว ห่วงคลังต้องรับผิดชอบความเสียหายก่อนเพิ่มทุน สนบ.ยืนยัน พร้อมค้ำกู้ 5.5 หมื่นล้านบาท "โสภณ ซารัมย์" แนะเร่งผ่าตัด เฉือนเนื้อร้ายทิ้ง
- "สนธิรัตน์" เตรียมหามาตรการช่วย กลุ่มโรงกลั่น-ผู้ค้าน้ำมัน หลังขาดทุนสต็อกหลายหมื่นล้านบาท เหตุพิษโควิดฉุดความต้องการใช้ลดลง กดราคาน้ำมันโลกดิ่งต่ำสุดรอบกว่า 30 ปี ด้าน ปตท. เผยงบไตรมาสแรกปี 63 พลิกขาดทุนครั้งแรกรอบ 4 ปี กว่า 1.55 พันล้านบาท ลุยหั่นงบลงทุนปีนี้ลง 10-15% หวังรับมือวิกฤติโควิด
- ลุ้นมติที่ประชุม ศบค. 15 พ.ค. คลายล็อกเพิ่ม 3 กลุ่มกิจการ ศูนย์การค้า คลินิกความงาม เสริมสวย ย้อมผม-ดัดผม ถ่ายโฆษณา-นางแบบ
- "ไทยบีเอ็มเอ" เผยตลาดหุ้นกู้เริ่มฟื้น หลังเอกชนเริ่มหันมาระดมทุน ชี้ล่าสุดมีกว่า 10 บริษัท ยื่นไฟลิ่งออกขายหุ้นกู้ มั่นใจช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ยอดระดมทุนไม่น้อยกว่า 5 หมื่นล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่นเริ่มกลับมา ด้าน "ไพบูลย์" ฟันธง หุ้นไทยระยะยาวยังขาขึ้น สิ้นปีมีลุ้น 1,400 จุด ขณะดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิดบวกกว่า 21 จุด
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและตลาดการเงินทั้งในและต่างประเทศ ตลาดพันธบัตรมีความผันผวนเพิ่มขึ้นและคาดว่ายังอยู่ในระดับสูงต่อไป นอกจากนี้การระดมทุนของภาครัฐเพื่อรองรับมาตรการเยียวยาและลดผลกระทบโควิด-19 อาจส่งผลต่ออุปทานพันธบัตรภาครัฐโดยรวม ธปท.จึงหารือร่วมกับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะถึงแนวทางการกำหนดวงเงินพันธบัตรภาครัฐให้อยู่ในระดับเหมาะสม โดยคำนึงถึงแผนการระดมทุนภาครัฐและความต้องการลงทุนที่อาจปรับเปลี่ยนรวดเร็ว
- ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าอยู่ที่ 32.1 ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ น่าห่วงคนตกงานคาดแค่ 3 ล้านคน น้อยกว่าที่คาดไว้ 7 ล้าน หลังรัฐรีสตาร์ทธุรกิจเร็ว
- FETCO คาดดัชนีหุ้นไทยปีนี้อยู่ที่ 1,400 จุด จี้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า อยู่ในเกณฑ์ "ทรงตัว"
*หุ้นเด่นวันนี้
- BEM (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 10.5 บาท ได้ Sentiment บวกจำนวนผู้โดยสารและผู้ใช้บริการเร่งตัวขึ้นทั้งทางด่วน และรถไฟฟ้าหลังจากที่ภาครัฐเริ่มปลดล็อกกิจกรรมเศรษฐกิจเฟส 1 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. และกำลังจะปลดล็อกเฟส 2 ในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ในระยะกลางยังมีแรงเก็งกำไรจากการเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตก ซึ่ง BEM เป็นตัวเต็ง เนื่องจากเป็นงานรถไฟฟ้าใต้ดินที่ BEM มีประสบการณ์มากที่สุด
- GLOBAL (กสิกรไทย) "ซื้อ"เป้า 15.5 บาท จากคาดผลประกอบการจะเริ่มดีขึ้นหลังปลดล็อกดาวน์และคาดทุกสาขาจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 17 พ.ค. ขณะที่คาดกำไรจากสินค้า private label จะเป็นปัจจัยหลักที่หนุนการเติบโตของอัตรากำไรขณะที่คาดกำไรสุทธิจะฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/2563 เป็นต้นไป