หุ้น BANPU ราคาพุ่งขึ้น 13.51% มาอยู่ที่ 6.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 720.8 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.18 น. โดยเปิดตลาดที่ 5.75 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 6.35 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 5.70 บาท
บมจ. บ้านปู (BANPU) และบริษัทย่อย ประกาศผลดำเนินงานงวดไตรมาส 1/63 มีกำไรสุทธิ 1.71 พันล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.333 บาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 905.08 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.175 บาท
BANPU เผยกำไรสุทธิไตรมาส 1/63 เพิ่มขึ้น 90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต แม้ราคาตลาดของกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ด้านพลังงาน ทั้งราคาถ่านหิน และราคาก๊าซธรรมชาติ ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากปลายปี 62 อย่างไรก็ตามรายได้จากธุรกิจไฟฟ้ายังคงอยู่ในระดับที่สูง และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าช่วยหนุนผลการดำเนินงาน
ทั้งนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/63 ที่ระดับ 55 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 29 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 633 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามรายได้จากธุรกิจถ่านหินที่ลดลง จากราคาขายเฉลี่ยของถ่านหินที่ลดลง 12.34 เหรียญสหรัฐต่อตัน ขณะที่ปริมาณขายถ่านหินเพิ่มขึ้นจำนวน 0.91 ล้านตัน ขณะที่รายได้ธุรกิจก๊าซฯลดลง ตามราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง 56% แม้จะปริมาณขายเพิ่มขึ้น 3% ก็ตาม อย่างไรก็ตามในส่วนธุรกิจไฟฟ้าและไอน้ำ มีรายได้เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากปริมาณขายไฟฟ้าและไอน้าที่เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตามในไตรมาสนี้ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงอย่างรวดเร็วเทียบกับดอลลาร์สหรัฐจึงส่งผลบวกให้เกิดกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) จำนวนสูงถึง 112 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้กำไรสุทธิสำหรับไตรมาสนี้คิดเป็น 55 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยงในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจเป็นวงกว้างไปทั่วโลก กลุ่มบริษัทได้ดำเนินมาตรการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับความไม่แน่นอนของสภาพเศรษฐกิจโลก ตลอดจนความผันผวนของราคาตลาดของกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ด้านพลังงานในอนาคต