นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก (GLOBLEX) ประเมินว่า แนวโน้มการลงทุนขณะนี้เริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัว โดยมองกรอบดัชนีเคลื่อนไหว ในระดับ 1,260 -1,310 จุด จากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งอกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) เริ่มปรับลดกำลังการผลิตตามแผนตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. รวมถึงการทยอยปลดมาตรการล็อกดาวน์ของหลายประเทศ ส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันเริ่มขยับเพิ่มขึ้น
ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น โดยจะเห็นได้จากการรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มไม่ถึง 10 รายในแต่ละวันตลอดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จะส่งผลให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) มีแนวโน้มผ่อนปรนมาตรการในระยะ 2 เพิ่มเติม
พร้อมกันนี้ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย ยังมีการรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือน พ.ค.63 ในอีก 3 เดือนข้างหน้า มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว หลังจากซบเซามา 3 เดือนติดต่อกัน รวมถึงสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนดูเหมือนจะเริ่มคลี่คลายความตึงเครียดหลังจากทั้งสองประเทศหันมาเจรจาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น โดยญี่ปุ่นจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือน มี.ค.และ สหรัฐ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน เม.ย.ภายในวันที่ 12 พ.ค.นี้ ส่วนในวันที่ 13 พ.ค.ญี่ปุ่น เปิดเผยดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนมี.ค. ขณะที่สหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค. ตามด้วยสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์
สำหรับวันที่ 14 พ.ค.จีนเปิดเผยยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวนเดือน เม.ย. ขณะที่สหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือน เม.ย., วันที่ 15 พ.ค.จะเป็นการกำหนดวันสุดท้ายส่งงบการเงินของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) และศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ประชุมหารือกิจกรรมที่จะปลดล็อกเฟส 2, วันที่ 18 พ.ค. สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/63 และวันที่ 20 พ.ค.จะมีการกำหนดประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 3/2563
ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้หากมีการปลดมาตรการล็อกดาวน์เฟส 2 จะมีหุ้นที่จะได้รับผลประโยชน์จากปัจจัยดังกล่าว แนะนำดักทางการลงทุนในหุ้น 16 ตัว ได้แก่ กลุ่มห้างสรรพสินค้าและโมเดิร์นเทรด อาทิ CRC, MBK , CPN , SF , HMPRO , DOHOME , MC , RSP , COM7 และ JMART หุ้นกลุ่มร้านอาหาร เช่น AU, M, ZEN และ MINT และกลุ่มบริการสปา เช่น SPA
ขณะที่ราคาทองคำ ทางฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำยังผันผวนในกรอบ 1,680-1,730 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ หรือคิดเป็น 25,430-26,270 บาทต่อบาททองคำ แนะนำให้ใช้กลยุทธ์ ลงซื้อ-ขึ้นขาย คาดว่าในสัปดาห์นี้ทองคำปรับตัวขึ้นได้จำกัดเนื่องจากเงินทุนเริ่มไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะตลาดหุ้น หลังสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนคลี่คลายจากการที่สองประเทศหันมาเจรจาอีกครั้ง นอกจากนี้การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในหลายประเทศเริ่มควบคุมได้ ส่งผลให้นักลงทุนคลายกังวลและเข้าถือสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น