นายสมบุญ เศรษฐ์สันติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี บมจ.เอแอลที เทเลคอม (ALT) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 63 มีแนวโน้มเติบโตที่ดี ทั้งงานก่อสร้างเสาและสถานีฐาน รวมถึงงานซ่อมบำรุง เพื่อรองรับเทคโนโลยี 5G แก่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายในประเทศ โดยบริษัทได้ลงนามในข้อตกลงไตรภาคีกับ edotco Group Sdn Bhd และบมจ.กสท.โทรคมนาคม (กสท) เพื่อสร้างและ/หรือร่วมลงทุนในเสาและสถานีฐานเพื่อรองรับโครงข่าย 5G
นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทยังมีมติอนุมัติเพิ่มเงินลงทุนในบริษัทลูก ซึ่ง ALT ถือหุ้น 100% คือ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เกทย์ จำกัด (IG) จำนวน 100 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวของการให้บริการรับส่งข้อมูล (Internet Bandwidth) ระหว่างประเทศ หลังจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนเข้าสู่ New Normal
"หลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ทุกคนต้องรักษาระยะห่าง ทำให้มีการใช้บริการอินเทอร์เน็ตมากขึ้น ALT ได้รับอานิสงส์โดยตรง ทำให้ต้องเพิ่มเงินลงทุนในบริษัทลูก เพื่อเร่งขยายอุปกรณ์และโครงข่ายให้แก่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอินเทอร์เน็ตต่างประเทศใน เมียนมา ลาว และ กัมพูชา มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยขับเคลื่อนผลการดำเนินงานของบริษัทไปสู่ป้าหมายที่วางไว้"นายสมบุญ กล่าว
นายสมบุญ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/63 พลิกมีกำไรสุทธิ 188.65 ล้านบาท จากที่ขาดทุนสุทธิ 61.3 ล้านบาทในไตรมาส 1/62 โดยสิ้นไตรมาสแรกมีงานในมือ (Backlog) จำนวน 1,584 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวม 158.15 ล้านบาท เพิมขึ้น 17.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้การให้บริการโครงข่ายมียอดเพิ่มขึ้น 27.6% จาก 34.45 ล้านบาท เป็น 43.96 ล้านบาท รายได้ในส่วนของงานขายสินค้า งานบริการก่อสร้างสถานีฐานและติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มขึ้น 25.9% และ 12.3% ตามลำดับ
"ไตรมาส 1/63 ผลประกอบการของ ALT พลิกฟื้นกลับเป็นกำไร หลังจากผ่านช่วงเวลาแห่งความยากลำบากมาระยะหนึ่ง ถือเป็นการเริ่มต้นใหม่พร้อมกับโอกาสที่มีแนวโน้มเติบโตสูง โดยในไตรมาส 1/63 ที่ผ่านมาบริษัทร่วมกับพันมิตร ชนะประมูล โครงการจ้างเหมาจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์เครือข่ายส่วนกลางและส่วนภูมิภาคของการรถไฟแห่งประเทศไทย มีมูลค่างานกว่า 496 ล้านบาท โครงการมีระยะดำเนินการ 9 เดือน นับจากวันที่ลงนามในสัญญาเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2563"นายสมบุญ กล่าว