นายนพพร วิฑูรชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเม้นท์ (SF) คาดว่า กำไรในปีนี้จะเติบโตดีกว่าปีก่อน เนื่องจากมีการรับรู้รายได้เต็มปีจากเอสพละนาด ซีเนเพล็กซ์ ซึ่งเป็นศูนย์การค้าที่มีพื้นที่มากที่สุดของบริษัท และยังมาจากค่าเช่าพื้นที่ห้างสรรพสินค้าทุกแห่งที่จะทยอยปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 15% ตามอายุสัญญาการเช่า
ขณะที่รายได้ในปีนี้อยู่ที่ 2 พันล้านบาท หรือเติบโต 20% จากปีก่อน จากจำนวนพื้นที่เช่าโดยรวมในปีนี้ประมาณ 2.6-2.7 แสนตร.ม.จากปี 49 ที่มีพื้นที่เช่า 1.88 แสนตร.ม. โดยครึ่งปีแรกมีรายได้แล้ว 1 พันล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินการในไตรมาส 2 เชื่อว่าจะมีรายได้ 600 ล้านบาท ซึ่งเติบโตกว่าไตรมาส 1 ที่มีรายได้ 400 ล้านบาท โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากศูนย์การค้าเอสพละนาด และจากค่าเช่าพื้นที่
ด้านนายสมนึก พจน์เกษมสิน กรรมการผู้จัดการ SF กล่าวว่า ในครึ่งหลังของปีนี้บริษัทมีแผนจะทยอยเปิดศูนย์การค้าใหม่จำนวน 5 แห่ง รวมมูลค่าเงินลงทุน 2 พันล้านบาท ซึ่งนอกจากศูนย์การค้า"เมเจอร์ อะเวนิว@รัชโยธิน"แล้ว ยังมีที่พัทยา จ.ชลบุรี, อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา, เกษตร-เสนาฯ และเกษตร-นวมินทร์
สำหรับศูนย์การค้าใหม่ "เมเจอร์ อะเวนิว@รัชโยธิน"ซึ่งเป็นการร่วมกับ บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR)ภายใต้บริษัทย่อย คือ บริษัท รัชโยธิน อเวนิว ในสัดส่วนลงทุน 50:50 คาดว่าจะคุ้มทุนภายใน 10 ปี ทยอยรับรู้ปีละ 100 ล้านบาท จากเงินลงทุนทั้งหมด 1 พันล้านบาท คาดว่าจะเปิดเฟสแรกปลายปีนี้ และเปิดเต็มรูปแบบภายในไตรมาส 2 ปี 51
นายสมนึก กล่าวถึงแผนออกหุ้นกู้ของบริษัทว่า น่าจะสามารถเสนอขายหุ้นกู้ล็อตแรกจำนวน 1 พันล้านบาท อายุ 3 ปี ในเดือนก.ค.-ส.ค. จากวงเงินที่จะขอมติอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในวันที่ 17 ก.ค.นี้ประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ดังกล่าวจะเสนอขายให้นักลงทุนสถาบันในประเทศ เม็ดเงินที่ได้จะนำไปใช้ในการรีไฟแนนซ์หนี้ระยะสั้น 800 ล้านบาท เพื่อทำให้ต้นทุนดอกเบี้ยลดลง 2% จากดอกเบี้ยปัจจุบัน 7% ส่วนเม็ดเงินที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
ทั้งนี้ นอกเหนือจากโครงการศูนย์การค้า เมเจอร์ อะเวนิว @รัชโยธิน ที่เป็นลักษณะการร่วมทุน บริษัทยังมีการร่วมทุนกับเจ้าของพื้นที่บริเวณ เอกมัย ทาวเวอร์ เซ็นเตอร์ อีก โดย SF ลงทุนในสัดส่วน 51%
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--