ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: พิษดาวโจนส์ดิ่งหนัก ฉุดฟุตซี่ร่วงตาม 203.1 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 27, 2007 07:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงอย่างรุนแรงกว่า 200 จุดและแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดิ่งลงกว่า 300 จุด ส่งผลให้นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นบลูชิพอย่างหนักหน่วง
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 203.1 จุด หรือ 3.2% ปิดที่ 6,251.2 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 เดือน มีปริมาณการซื้อขาย 4 พันล้านหุ้น
นายทิม รีส นักวิเคราะห์จากบริษัทอิสไซท์ อิสเวสท์เมนท์กล่าวว่า "ตลาดหุ้นลอนดอนถูกแรงขายกระหน่ำรุนแรงมากหลังจากดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 300 จุด ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลเรื่องตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดปล่อยกู้จำนองกลุ่มซับไพร์มของสหรัฐ"
นอกจากนี้ การที่สหรัฐเปิดเผยว่ายอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย.ร่วงลง 6.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดในรอบ 5 เดือนนั้น ยิ่งตอกย้ำว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐอาจตกต่ำลงมากกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้น
หุ้นบริษัทเลกัลแอนด์เจนเนอร์รัลซึ่งเป็นบริษัทประกัน ถูกแรงขายทุบร่วงลง 12.4 เพนซ์ ปิดที่ 138.1 เพนซ์ หลังจาก หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ประมาณ 9% นอกจากนี้ ผลประกอบการที่น่าผิดหวังได้ฉุดหุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค ซึ่งเป็นผู้ผลิตบุหรี่รายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ร่วงลง 46 เพนซ์ ปิดที่ 1,598 เพนซ์
ส่วนหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ดิ่งลง 42 เพนซ์ ปิดที่ 1,937 เพนซ์ หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงเกือบ 1 ดอลลาร์ แม้ว่าบริษัทได้เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งก็ตาม ขณะที่หุ้นบีพีรูดลง 9 เพนซ์ ปิดที่ 575 เพนซ์ และหุ้นบีจี กรุ๊ป ปรับตัวลง 19 เพนซ์ ปิดที่ 769 เพนซ์
หุ้นบริษัทโรลส์-รอยซ์ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายยุทธปัจจัยทางทหาร ร่วงลง 37 เพนซ์ ปิดที่ 496 เพนซ์ หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิครึ่งปีแรกที่ระดับ 377 ล้านปอนด์ เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกในปี 2549 ที่ระดับ 870 ล้านปอนด์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ