นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะอ่อนตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างติดลบ จากความกังวลการแพร่ระบาดรอบ 2 ของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในจีน และเกาหลีใต้ ซึ่งทำให้วิตกว่าอาจจะมีการชะลอการคลายล็อกดาวน์หรือไม่
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราคงจะเลือกเล่นหุ้นเป็นรายตัวตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยประกาศออกมา และอาจจะตามผลการทบทวนการปรับน้ำหนักลงทุนของ MSCI ที่ออกมาได้เพิ่ม KTC, AWC, BAM เข้าสู่การคำนวณ ส่วนหุ้น TOA ที่คาดว่าจะเข้าสู่การคำนวณแล้วไม่ได้เข้าก็อาจเจอแรงขายออกมา อีกทั้งยังมีหุ้น 16 ตัวที่ถูกให้ออกจากการคำนวณของ MSCI ด้วย
นอกจากนี้ ตลาดบ้านเราในแง่ Valuation ก็ถือว่าแพง ซึ่งเมื่อวานนี้สามารถทำให้ดัชนีฯขึ้นมาระดับ 1,300 จุดได้ แต่ก็ไม่ทำ และวันนี้ตลาดฯก็คงจะอ่อนตัวลงด้วย โดยให้ติดตามประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อสภาคองเกรสในวันนี้
พร้อมให้แนวรับ 1,280 จุด ส่วนแนวต้าน 1,309 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (12 พ.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,764.78 จุด ร่วงลง 457.21 จุด (-1.89%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,870.12 จุด ลดลง 60.20 จุด (-2.05%) ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,002.55 จุด ลดลง 189.79 จุด (-2.06%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 225.56 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 8.60 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 134.01 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 18.46 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 24.67 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 14.10 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.29 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (12 พ.ค.63) 1,299.69 จุด เพิ่มขึ้น 12.39 จุด (+0.96%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,195.66 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 พ.ค.63
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (12 พ.ค.63) ปิดที่ 25.78 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.64 ดอลลาร์ หรือ 6.8%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (12 พ.ค.) อยู่ที่ -0.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.11 ตลาดจับตาถ้อยแถลงประธานเฟดคืนนี้ อาจส่งสัญญาณทิศทางดอกเบี้ย ให้กรอบ 32.05-32.20
- นายกฯ เบรกคมนาคมเสนอแผนฟื้นฟูการบินไทยเข้า ครม.ชี้ทำแผนให้ชัดก่อน ชี้พนักงานต้องร่วมมือ ด้านทีมที่ปรึกษาการเงิน ชงข้อเสนอยื่นศาลล้มละลาย "คลัง" โยนคมนาคมชี้ขาด ด้าน "ศักดิ์สยาม" ยืนยันเข้าเกณฑ์ยื่นศาลขอฟื้นฟูกิจการ
- ธปท.เผยผลสำรวจชี้ แบงก์เข้มงวดปล่อยสินเชื่อ 3 กลุ่ม ทั้งรายใหญ่ บัตรเครดิต และเช่าซื้อ ปรับเพิ่มมาร์จิ้นธุรกิจที่มีความเสี่ยง เพิ่มเงื่อนไขสัญญากู้และหลักประกัน มองแนวโน้มไตรมาส 2 "คุณภาพสินเชื่อ" รายใหญ่และเอสเอ็มอีลดลง จากผลกระทบโควิด-19 "กสิกร" ชี้มาตรการช่วยลูกหนี้ ช่วยชะลอเกิดเอ็นพีแอล
- กระทรวงพาณิชย์เผยไทยส่งออกทองคำไตรมาสแรกโต 220.91% เหตุหลายประเทศทั่วโลกแห่ตุนเก็งกำไรดันราคาพุ่งพรวด ผลพวงโควิด-19 ไม่หยุดระบาด ห่วงเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว
- ตลท.เผยหุ้นไทยเดือนเมษายน 2563 ฟื้น ปรับเพิ่มขึ้น 15.6% สูงเป็นอันดับ 2 ในเอเชีย คาดไตรมาส 3 IPO กลับมาซื้อขาย พร้อมทบทวน ชอร์ตเซลหลังสิ้นสุดเดือนมิถุนายนนี้
- เดอะมอลล์ กรุ๊ป เผยค้าปลีกกระทบหนักทั่วโลก คาดปี 63 สูญเม็ดเงิน 5 แสนล้านบาท เตรียม 100 มาตรการเข้มพร้อมรับปลดล็อกดาวน์ เผยคนเข้าใช้บริการช่วงแรกอาจลดลง 30-40%
- นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วง 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา ธปท.ได้ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟต์โลนวงเงิน 5 แสนล้านบาทให้กับธนาคารเพื่อไปปล่อยกู้ต่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีแล้ว 17 ธนาคาร เป็นลูกหนี้เอสเอ็มอี 25,000 ราย คิดเป็น 42,000 ล้านบาท ซึ่งยังมีความล่าช้าอยู่ โดยได้สั่งการให้ธนาคารตั้งทีมงานพิเศษเร่งเข้าหาติดต่อลูกหนี้เอสเอ็มอีโดยตรง ไม่ต้องรอให้ลูกหนี้เข้ามาติดต่อธนาคารเอง และ ธปท. ยังได้ประสานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยให้ช่วยแจ้งเอสเอ็มอีทั้งหมดที่ต้องการเงินกู้ไปติดต่อธนาคารเจ้าหนี้ของแต่ละแห่งอีกทางหนึ่ง
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า แผนการทยอยปลดล็อกมาตรการล็อกดาวน์ของภาครัฐที่มีแนวโน้มจะเปิดห้างสรรพสินค้าในระยะที่สองนี้ ถือเป็นสัญญาณที่ดีให้กับธุรกิจค้าปลีก ซึ่งให้มีโอกาสกลับมามีรายได้ผ่านช่องทางหน้าร้านได้อีกครั้ง แต่ยังต้องเจอกับความท้าทายสำคัญที่จะกระทบต่อรายได้ โดยเฉพาะกำลังซื้อของผู้บริโภคยังคงซบเซาอยู่ และความไม่มั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย หากโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดรอบ 2 ทำให้ผู้บริโภคยังคงมีความกังวลและใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
*หุ้นเด่นวันนี้
- CPF (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 36 บาท ประกาศงบวันนี้ แนวโน้มกำไร Q1/63 สดใส ผลกระทบจาก โควิด-19 จำกัด แต่ได้อานิสงส์จากราคาเนื้อสัตว์ที่ปรับสูงขึ้น โดยคาดกำไรปกติ 4.2 พันล้านบาท สูงสุดในรอบ 14 ไตรมาส แนวโน้ม Q2/63 อาจชะลอ Q-Q เพราะราคาเนื้อสัตว์ลดลงในเดือน เม.ย. แต่ปัจจุบันขยับขึ้นมาเล็กน้อย ปัจจุบันมี PE 13 เท่า ต่ำกว่าอดีตที่ 15-17 เท่าและ PBV ต่ำเพียง 1.2 เท่า
- TASCO (กสิกรไทย) เป้า 21.50 บาท คาดกำไรสุทธิเติบโตขึ้นในไตรมาส 2/2563 และ 3/2563 หนุนจากส่วนต่างราคายางมะตอยที่กลับมาอยู่ในระดับปกติและอุปทานระดับภูมิภาคที่ตึงตัว