นายธีระชัย ธีระรุจินนท์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) (TPLAS) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/63 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.63 บริษัทมีรายได้รวม 110.31 ล้านบาท ลดลง 27.64 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20.04% และมีกำไรสุทธิ 6.10 ล้านบาท ลดลง 4.48 ล้านบาท หรือคิดเป็น 42.37% เมื่อเทียบจากปีก่อน สาเหตุที่ภาพรวมผลการดำเนินงานปรับตัวลดลง เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอตัว ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เข้ามาเป็นตัวแปรหลักที่ทำให้มีลุ่มผู้บริโภคมีความระมัดระวังการเรื่องใช้จ่ายมากขึ้น
แต่หากพิจารณาด้านมาร์จิ้นในไตรมาสดังกล่าวแล้ว จะเห็นได้ว่าบริษัทฯ สามารถรักษาระดับ Gross Margin ได้เท่ากับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้วที่ระดับ 19% พร้อมทั้งเชื่อว่า ในช่วงครึ่งปีหลังจากกำลังซื้อจะมีโอกาสกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใต้มาตรการการผ่อนคลายโควิด-19
"ในไตรมาสแรกต้องยอมรับว่า มีปัจจัยกดดันหลายๆ ด้าน อาทิ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจภาพรวมชะลอตัวลงไปอีก จากเดิมที่แทบจะไม่มีกำลังซื้ออยู่แล้ว ทำให้มีการแข่งขันด้านราคามากขึ้น แต่ TPLAS มีความแข็งแกร่งในด้านฐานลูกค้าเดิมที่ยังคงสั่งสินค้าต่อเนื่องไม่ได้หนีหายไปไหน จึงทำยอดขายของ TPLAS ไม่ได้รับผลกระทบมากนักเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่น"นายธีระชัย กล่าว
ทั้งนี้ จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาคเศรษฐกิจการลงทุน มีการชะลอตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่กำลังซื้อผู้บริโภคก็ปรับตัวลดลงตาม ซึ่งจากประเด็นดังกล่าว TPLAS ก็มีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด โดยศึกษาความต้องการของผู้บริโภคเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งปรากฏว่าความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทพลาสติกถนอมอาหาร หรือฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร รวมถึงบรรจุภัณฑ์ประเภทถุงใส่อาหาร ยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงนี้อาจจะมีการชะลอตามกำลังซื้อลงไปบ้าง
ขณะเดียวกันความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทบรรจุภัณฑ์กล่องอาหารรักษ์สิ่งแวดล้อมก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน บริษัทจึงสบช่องเร่งขยายไลน์การผลิตเพื่อรอรับความต้องการของตลาดผู้บริโภค ทำให้ในเฟสแรกบริษัทสั่งเร่งผลิตบรรจุภัณฑ์กล่องอาหารภายใต้ตราสินค้า "B-LEAF" จำนวน 650,000 กล่องต่อเดือน พร้อมตั้งเป้ายอดขายจากโปรดักส์ดังกล่าวในปีแรกไว้ที่ประมาณ 30 ล้านบาท และคาดว่าจะทยอยเพิ่มกำลังการผลิตในอนาคตเพื่อต่อยอดรายได้ในอนาคต
นอกจาก แผนในการขยายไลน์ผลิตดังกล่าวแล้ว บริษัทได้ศึกษาแผนในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มขึ้นอีก 1-2 ผลิตภัณฑ์ คาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปภายในเร็วๆ นี้ โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเพิ่มขึ้นจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อเสริมผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันให้มีความหลากหลายมากขึ้น