NNCL คาดกำไรสุทธิ-รายได้ปี 50 พลิกโตได้กว่า 10% รับผลการเมืองคลี่คลาย

          บมจ.นวนคร(NNCL)รับอานิสงส์สถานการณ์การเมืองในประเทศคลี่คลายทำให้นักลงทุนต่างชาติมั่นใจกลับเข้าลงทุน คาดรายได้และกำไรสุทธิในปี 50 เติบโตมากกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,096 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 240.9 ล้านบาท  มองครึ่งปีหลังรายได้รวมและกำดีกว่าครี่งปีแรก จากรายได้จากสาธารณูปโภคที่เพิ่มเข้ามา
          นายนิพิฐ อรุณวงษ์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ NNCL เปิดเผยว่า ลูกค้าต่างประเทศโดยเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่น กลับเข้ามาลงทุนในไทยตั้งแต่เม.ย.ที่ผ่านมาหลังจากปัญหาการเมืองคลี่คลาย ทำให้ยอดขายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมทำได้ดีในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ โดยเฉพาะในไตรมาส 2/50 ดังนั้นจึงมั่นใจว่าในปีนี้ผลประกอบการจะดีเกินกว่า 10% 
          "ตอนนี้ ดีขึ้นมากทีเดียว ลูกค้าญี่ปุ่นที่เคยชะลอไว้ก็กลับมาหมดแล้วทั้งรายใหม่รายเก่า ญี่ปุ่นกลับมาแทบจะทั้งหมดแล้ว...เท่าที่ดูรายได้รวมน่าจะดีโตมากกว่า 10% อย่างแน่นอน กำไรปีนี้ก็น่าจะสูงกว่าปีที่แล้วพอสมควร เรามั่นใจว่าจะต้องสูงกว่า 10% แน่นอน ผมดูแล้ว backlog ที่เรามีอยู่ก็น่าโอเคหมดเลย ปีนี้ดีมาก "นายนิพิฐ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
          ทั้งนี้ NNCL มีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นญี่ปุ่น ในสัดส่วนสูงถึง 50-60% โดยเฉพาะลูกค้าที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.นครราชสีมา มีลูกค้าญี่ปุ่นสัดส่วนสูง 60-70% ซึ่งอยู่ใน 2 ธุรกิจหลักคือ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนรถยนต์ 
          สำหรับโครงสร้างรายได้ของ NNCL ในปีนี้คาดว่าจะมาการขายพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรม 2 แห่งที่ จ.ปทุมธานีและ จ.นครราชสีมา สัดส่วนประมาณ  60% และอีก 40% จากรายได้สาธารณูปโภค ปรับจากปีก่อนที่มีสัดส่วน 50%:50%
          นายนิพิฐ กล่าวว่า เมื่อต้นมิ.ย.โรงผลิตน้ำในนิคมที่นครราชสีมาเริ่มดำเนินการแล้ว ดังนั้น คาดว่าครึ่งปีหลังจะมีรายได้จากสาธารณูปโภคขึ้นมามากขึ้นและทำกำไรได้ดีขึ้น จากช่วงครึ่งปีแรกบริษัทสามารถทำกำไรจากธุรกิจสาธารณูปโภคเพิ่มเป็นมากกว่าสัดส่าวน 30% จาก 10% ในปีก่อน 
          "รายได้รวมครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะมีรายได้สาธารณูโภค แต่ก็ขึ้นกับการโอนที่ดินทำได้เร็วมากน้อยแค่ไหน เพราะลูกค้าบางรายมีเงื่อนไขต้องได้บีโอไอก่อน การรับรู้รายได้จึงไม่แน่นอน"นายนิพิฐกล่าว 
          นอกจากนี้ ที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.นครราชสีมายังเหลือ 400 ไร่จากที่เปิดขาย 800 ไร่ คาดว่าน่าจะปิดการขายได้ในปลายปีหน้า และจะเริ่มขายเฟสสองต่ออีกจำนวน 500 ไร่ 
          ขณะที่ เขตปลอดภาษีอากร(เขตฟรีโซน) ในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี จำนวน 100 ไร่คาดว่าจะปิดการขายได้กลางปีหน้า 
          ทั้งนี้ นิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.นครราชสีมามีพื้นที่ทั้งหมด ราว 2 พันไร่ โดยขณะนี้ปรับปรุงพื้นที่เฟสแรก 800 ไร่ โดยนิคมแห่งนี้มีจุดเด่นที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และใกล้ท่าเรืองแหลมฉบัง และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณูปโภคให้ครบ