(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:วิตกผลประกอบการเอกชน กดดาวโจนส์ปิดร่วง 148.27 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 11, 2007 06:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทเอกชน โดยเฉพาะเมื่อบริษัทโฮม ดีโปท์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐประกาศลดคาดการณ์ผลประกอบการ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้น
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 148.27 จุด หรือ 1.09% ปิดที่ 13,501.70 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 21.73 จุด หรือ 1.42% ปิดที่ 1,510.12 จุด และดัชนี Nasdaq รูดลง 30.86 จุด หรือ 1.16% ปิดที่ 2,639.16 จุด
ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.64 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 13 ต่อ 4 ขณะที่ปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.25 พันล้านหุ้น
นักลงทุนส่วนใหญ่มีท่าทีวิตกังวลก่อนที่บริษัทเอกชนในสหรัฐจะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 โดยเฉพาะเมื่อบริษัทโฮม ดีโปท์ บริษัทเซียร์ส โฮลดิ้ง และบริษัทรับสร้างบ้านอย่างดร.ฮอร์ตัน อิงค์ ประกาศลดคาดการณ์ผลประกอบการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐชะลอตัวลง
นายแจ็ค แคฟฟรีย์ นักวิเคราะห์จากเจพี มอร์แกน ไพรเวท แบงค์กล่าวว่า "กระแสความวิตกกังวลเริ่มตั้งแต่บริษัทอัลโค ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการที่ต่ำเกินคาด และบริษัทเล็กซ์มาร์ก อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ ได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 2 เช่นกัน"
"นักลงทุนกังวลว่าตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการที่อ่อนแอเช่นนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ชะลอตัวลงด้วย" นายแคฟฟรีย์กล่าว
ส่วนการแสดงความคิดเห็นของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีขึ้นที่เมืองเคมบริดจ์นั้น ไม่มีการส่งสัญญาณว่าเฟดจะดำเนินการอย่างไรต่อไปในเรื่องอัตราดอกเบี้ย ในทางกลับกัน แถลงการณ์ของนายเบอร์นันเก้มุ่งเน้นแต่ว่า เฟดจะใช้วิธีควบคุมเงินเฟ้ออย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนกังวลว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ เนื่องจากราคาอาหารและราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มค้าปลีกร่วงลงอันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในธุรกิจปล่อยกู้จำนองให้กับลูกค้าที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ (subprime mortgage market) และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคในสหรัฐ โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค หุ้นอเมริกัน เอ็กเพรส หุ้นวอล-มาร์ท สโตเรส ดิ่งลงอย่างหนัก
ส่วนหุ้นเซียร์ร่วงลง 10% และหุ้นดร.ฮอร์ตัน รูดลง 2% หลังจากทั้ง 2 บริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการที่ต่ำเกินคาด อย่างไรก็ตาม หุ้นโฮม ดีโปท์ พุ่งขึ้น 8 เซนต์ ปิดที่ 40.31 ดอลลาร์ แม้บริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการที่ต่ำเกินคาดก็ตาม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ