นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในบ่ายวันนี้กระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคมจะมีการประชุมเพื่อหารือแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ.การบินไทย (THAI) โดยจะพิจารณาทางเลือกต่าง ๆ เพื่อตัดสินใจเลือกแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย ซึ่งยอมรับว่ายื่นขอล้มละลายเพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการก็เป็นทางเลือกหนึ่ง
รมว.คลัง กล่าวว่า ขณะนี้ทุกคนเร่งรัดและช่วยกันพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะการบินไทยมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจก็จึงต้องใช้เวลาพิจารณาเพื่อให้รัดกุมทุกประเด็น ยอมรับว่าแนวทางยื่นคำขอเข้ากระบวนการล้มละลายเป็นแนวทางหนึ่งในการฟื้นฟูกิจการ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) มีมติอนุมัติแผนฟื้นฟูการบินไทยมาแล้วเพื่อเร่งดำเนินการ เพราะปัญหาสะสมมาก ซึ่งเป็นแผนที่เสนอโดยฝ่ายบริหารของการบินไทยเอง ไม่ได้เป็นแผนของกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง แม้ว่ากระทรวงการคลังจะถือหุ้นใหญ่ และกระทรวงคมนาคมเป็นผู้กำกับดูแล
โดยหลังจาก คนร.เห็นชอบกรอบฟื้นฟูการบินไทยแล้วก็ได้นำมาศึกษารายละเอียดของแผนที่มีค่อนข้างมาก เห็นว่าจะต้องแก้ไขเรื่องการเงินเป็นเรื่องเร่งด่วน ซึ่งมีการพิจารณาว่าหากทำตามเงื่อนไขในแผนสมควรใช้เงินเท่าใดที่จะทำให้แผนสำเร็จ ขณะนี้ยังพิจารณาไม่ครบ 100% เพราะมีรายละเอียดมาก จึงยังไม่สามารถนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้
"เรื่องการกู้เงิน ต้องดูกรอบรวม ว่าจะใส่เงินเท่าไร การบินไทยต้องดำเนินการอย่างไร ถ้าทำตามและทำได้ รัฐบาลก็จะพิจารณาการช่วยเหลือส่วนใหญ่เป็นเงินทุนเงินกู้ แต่ต้องดูว่าแผนทำได้หรือไม่...แผนที่เสนอคนร. ก็มีรายละเอียดพอสมควร แต่เพื่อความรัดกุมก็ต้องมาดูอีกที แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดเล็กๆ ที่เกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย จึงต้องดูให้ดี สุดท้ายจบที่ ครม.อย่างน้อยแผนก็ผ่าน คนร.ขั้นตอนนี้"นายอุตตม กล่าว
อย่างไรก็ตาม นอกจากเรื่องการเงินแล้วยังต้องพิจารณาภาพรวมเรื่องอื่น ๆ ในแผนประกอบด้วย ซึ่งขณะนี้ก็ยังต้องหารือกันอยู่ แต่เบื้องต้นการบินไทยต้องปรับตัว ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน จะทำแบบเดิมคงไปไม่ได้ เพราะจะต้องเป็นการปรับใหญ่ ส่วนแนวทางอย่างไรวันนี้กำลังพิจารณากันอยู่
"ไม่ใช่วันนี้ตัดสินใจ คลัง คมนาคม การบินไทยมาร่วมกันดู ส่วนจะอย่างไร สุดท้ายจบที่ ครม."รมว.คลัง กล่าวผ่านรายการโทรทัศน์เช้านี้
ส่วนประเด็นการบินไทยมีกระแสเงินสดไม่เพียงพอนั้น นายอุตตม กล่าวว่า ทางฝ่ายบริหารและกรรมการ THAI ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะแก้ไขปัญหา โดยได้มีการเจรจาเจ้าหนี้ก็สำเร็จระดับหนึ่ง ทำให้มีกระแสเงินสดให้กิจการเดินหน้าได้ระดับหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรก็ต้องแก้ไขปัญหาให้เบ็ดเสร็จ
ขณะนี้นายนเรศ ผึ้งแย้ม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย กล่าวว่า จากที่ครม.ยังไม่พิจารณาแผนฟื้นฟูการบินไทยจึงคาดว่าน่าจะมีปัญหาที่ทำให้รัฐบาลลำบากใจ จากจุดยืนของสหภาพฯที่ไม่ต้องการให้แยกหน่วยธุรกิจเป็นบริษัทลูก เราจะให้ผ่อนคลายข้อนี้เพื่อให้องค์กรเดินหน้าต่อไปได้ เพราะเป็นทางรอดของบริษัท เราเองก็ตระหนักดีว่าภาพรวมเราแย่
"ณ วันนี้ เราต้องรับรู้ สังคมก็ให้ความสนใจ สังคมคิดอย่างไรกับเรา เราก็รู้ว่าในองค์กรเรามีปัญหาจริงๆ เราก็ต้องยอมรับ เราฟังเสียงวิพากษ์ วิจารณ์"นายนเรศ กล่าว
นายนเรศ กล่าวถึงกระแสข่าวที่การบินไทยอาจต้องยื่นขอล้มละลายว่า เราไม่มีทางเลือกอื่น อะไรที่เป็นทางอยู่รอด หากรัฐบาลหรือสังคมมองว่าดีที่สุดสำหรับเราก็ต้องยอมรับความเป็นจริง เนื่องจากองค์กรการบินไทยขาดสภาพคล่องอย่างหนัก
"อะไรที่ทางรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้วว่าดีต่อการบินไทย ซึ่งก็ห่วงใยว่าให้เราได้มีงานทำ ถึงตรงนี้ ผมจะมีเงื่อนไขอะไรที่จะไม่ยอมรับ ทางรัฐบาลอาจจะมีมุมมองกว้างกว่าเรา อะไรที่นายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาลพิจารณาว่าอะไรดีกับเรา เราก็ต้องรับได้"นายนเรศ กล่าว
อีกทั้งเห็นด้วยในหลักการที่จะลดจำนวนพนักงาน และยินดีให้ความร่วมมือ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนพนักงาน 21,000 คน ส่วนผลประโยชน์ของพนักงานที่เคยประกาศว่าไม่ต้องการให้ลดลงนั้น เป็นการกล่าวในฐานะสหภาพฯ แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงองค์กรเราต้องปรับตัว ดังนั้นสิทธิประโยชน์ก็ต้องปรับ แต่ขอให้ปรับไปตามกระบวนการตามกฎหมาย ไม่ใช่ปรับไม่ได้ ถ้าไม่ปรับอยู่ไม่รอด