TASCO คาดยอดขายยางมะตอย Q2/63 ฟื้นตามในปท.เข้าไฮซีซั่น-ตปท.คืนสู่ปกติ, ปรับลดเป้าทั้งปีเหลือ 1.8-1.9 ล้านตัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 14, 2020 12:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO) เปิดเผยว่า บริษัทคาดยอดขายยางมะตอยในไตรมาส 2/63 จะฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาส 1/63 เนื่องจากเป็นช่วงที่เข้าสู่ไฮฮีซั่นของตลาดในประเทศที่จะมีความต้องการใช้ยางมะตอยเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งบริษัทก็ได้เร่งกำลังการผลิตโรงกลั่นยางมะตอยให้รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น

"ธุรกิจโรงกลั่นฯ เรากลับมาผลิตเต็มกำลังการผลิตแล้วตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องด้วยเงินจัดสรรงบประมาณปี 63 ได้ลงมาทั้งหมดแล้วตั้งแต่เดือน มี.ค.63 และผู้รับเหมาก็เริ่มทำงานตั้งแต่เดือน เม.ย.เป็นต้นมา ซึ่งหลายๆ ภูมิภาคตลาดก็เริ่มกลับมาทำงานปกติ ทำให้คาดว่าตลาดในประเทศจะเข้าสู่ช่วง peak season และต่างประเทศก็จะกลับเป็นยอดขายปกติ"

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อภาครัฐได้มีการจัดสรรและเบิกจ่ายเงินงบประมาณแล้ว จะทำให้ยอดขายปรับตัวดีขึ้นราว 5-6 เดือน และจากนั้นจะเข้าสู่ช่วงรอเงินงบประมาณเข้ามาอีกรอบหนึ่ง ซึ่งบริษัทหวังว่าในงบประมาณปี 64 จะได้รับการพิจารณาและอนุมัติเร็วขึ้นกว่าปีงบประมาณก่อน หรือในราวเดือน ก.ย.63 และจัดสรรเข้ามาได้ทันในเดือน ต.ค.63 จากนั้นจะมีการใช้จ่ายในโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ตั้งแต่เดือน พ.ย.63 เป็นต้นไป

ขณะที่ตลาดต่างประเทศ ยอดขายก็เริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว โดยเฉพาะจีน ที่ก่อนหน้านี้มีการเลื่อนส่งมอบสินค้าจากไตรมาส 1/63 มาส่งในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 แทน ทำให้คาดว่ายอดขายในไตรมาส 2/63 น่าจะปรับตัวดีขึ้น รวมถึงโดยปกติในไตรมาส 2 ของทุกปีก็เป็นช่วงของไฮซีซั่นของจีน แต่คาดว่าการกลับมาคงยังไม่ 100% จากผลกระทบโควิด-19

ส่วนในประเทศมาเลเซีย มีการล็อกดาวน์ประเทศตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.-12 พ.ค.63 ทำให้ยางมะตอยที่ส่งไปไม่สามารถขายได้ ขณะที่ธุรกิจโรงกลั่นยังสามารถดำเนินการผลิตได้ปกติ แต่ยอดขายถือว่าน้อยมาก อย่างไรก็ตาม ทางการมาเลเซียได้เริ่มผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์บางส่วน โดยเปิดให้ธุรกิจรับเหมาดำเนินการได้แล้ว แม้จะยังคงล็อกดาวน์ประเทศไปจนถึงวันที่ 9 มิ.ย.63

ด้านเวียดนาม คาดว่ายอดขายปีนี้จะเป็นปีที่ดีที่สุด เนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ประกอบกับยอดขายในไตรมาส 1/63 ถือว่าดีมาก, อินโดนีเซีย มีการประกาศล็อกดาวน์มาตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย.-สิ้นเดือน พ.ค.นี้ แต่การดำเนินงานของโรงงานและคลังสินค้าของบริษัทยังคงสามารถผลิตและจำหน่ายได้ตามปกติ ส่วนกัมพูชาไม่มีการล็อกดาวน์ ยังดำเนินธุรกิจตามปกติเช่นกัน

นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า ด้านราคายางมะตอยปรับตัวดีขึ้น โดยตลาดต่างประเทศปัจจุบันมีราคาขายอยู่ที่ 200 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน และตลาดในประเทศ มากกว่า 200 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน เป็นไปตามความต้องการยางมะตอยที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ ปัจจุบันอยู่ที่ 29 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากสิ้นเดือน เม.ย.63 ที่อยู่ที่ 23 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล โดยบริษัททยอยซื้อน้ำมันไว้ในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในเดือน มี.ค.,เม.ย.และ พ.ค.63 ซึ่งน้ำมันล็อตดังกล่าวจะเข้าสู่โรงกลั่นตั้งแต่เดือน พ.ค.นี้เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม นายชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้าหมายยอดขายยางมะตอยในปีนี้มาเป็นทำได้ 1.8-1.9 ล้านตัน จากเดิมที่คาดจะทำได้ราว 2.2 ล้านตัน เนื่องจากโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายในไตรมาส 1/63 ปรับตัวลงไปค่อนข้างมาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ