นายสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์ ประธานกรรมการ บมจ.ไพร์ม โรด เพาเวอร์ (PRIME) กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตแตะ 1,000 ล้านบาทตามเป้าหมาย จากปีก่อนที่มีรายได้ 658.01 ล้านบาท โดยไตรมาส 1/63 ทำได้แล้ว 185.48 ล้านบาท โดยรายได้ทั้งปีจะมาจากการจำหน่ายไฟฟ้าราว 700-750 ล้านบาท เนื่องจากจะมีการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มอีก 10-15 เมกะวัตต์ในโครงการโรงไฟฟ้าประเทศญี่ปุ่นและไต้หวัน ส่วนธุรกิจรับติดตั้งโครงการโซลาร์รูฟท็อป (EPC) คาดมีรายได้ราว 300-350 ล้านบาท
ขณะที่บริษัทตั้งเป้ามีกำลังการผลิตติดตั้งในปีนี้เพิ่มอีก 113 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันอยู่ที่ 287 เมกะวัตต์ ทำให้สิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 400 เมกะวัตต์ โดยการเติบโตจะมาจากการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งได้วางงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ 600-700 ล้านบาท เพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศ และเตรียมก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ที่สุดในกัมพูชา กำลังการผลิตติดตั้ง 78 เมกะวัตต์ หลังจากชนะการประมูลระดับนานาชาติที่มีผู้เข้าร่วมประมูลจากทั่วโลกกว่า 100 บริษัท และมีสัญญาจำหน่ายไฟ 60 เมกะวัตต์ ซึ่งจะก่อสร้างที่จังหวัดกัมปงชนัง คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จได้ภายในปี 64
รวมถึงมองโอกาสเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าในประเทศ และขยายการลงทุนเพิ่มเติมในต่างประเทศ โดยมีความสนใจประเทศเวียดนาม, มาเลเซีย, อุซเบกิสถาน และมองโกเลีย เป็นต้น เพื่อผลักดันเป้าหมายกำลังการผลิตติดตั้งเพิ่มเป็น 1,000 เมกะวัตต์ในปี 68
สำหรับแหล่งเงินลงทุนดังกล่าวจะมาจากการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน, รายได้จากการขายไฟฟ้า และการใช้เครื่องมือทางการเงินในรูปแบบอื่นๆ
"กลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัทจากนี้ การเติบโตในประเทศ หรือ GO Local จะเน้นยังธุรกิจรับติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป,การขายไฟฟ้าระหว่างหน่วยงานเอกชนกับเอกชน (Private PPA) และการเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าในประเทศ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในเร็วๆ นี้ ส่วนการเติบโตในต่างประเทศ เราก็มีการโฟกัสเพิ่มขึ้นในประเทศเดิมที่มีการลงทุนอยู่แล้ว อย่าง ญี่ปุ่นและไต้หวัน รวมถึงโฟกัสเพิ่มเติมอีกหลายประเทศ ซึ่งจะเป็นปัจจัยผลักดันกำลังการผลิตติดตั้งของบริษัทเพิ่มขึ้นแตะ 1,000 เมกะวัตต์ได้ในปี 68" นายสมประสงค์ กล่าว
นอกจากนี้ แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 เบื้องต้นคาดเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/63 ซึ่งเหมือนกับทุกๆ ปีที่ไตรมาสนี้จะดีกว่าไตรมาสแรก