STI เผยกำไร Q1/63 เพิ่มขึ้น 49.2% ตามรายได้ ดันฐานะการเงินแกร่งพร้อมเตรียมรับขยายงานใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 15, 2020 15:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ (STI) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/63 มีรายได้จากการให้บริการ 232.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง โดยมีปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น อาทิ งานโครงการ One Bangkok โครงการปรับปรุงศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการ โซน ซี โครงการอาคารชุดพักอาศัยหลายโครงการ โครงการอาคารสำนักงาน และโครงการประเภทอาคารอเนกประสงค์ เป็นต้น

สำหรับสัดส่วนรายได้จากธุรกิจบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง สัดส่วน 90.8% และ สัดส่วนรายได้จากธุรกิจออกแบบสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม 9.2% ของรายได้จากการให้บริการรวม ด้านกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 70.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 27.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น 30.4% และอัตรากำไรสุทธิ 11.7%

"ผลประกอบการที่ออกมาเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ บริษัทฯ สามารถควบคุมบริหารงานก่อสร้าง และส่งมอบงานได้สำเร็จลุล่วงตามกำหนดการที่วางไว้ รวมไปถึง โอกาสในการขยายงานใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยสถานะฐานะทางการเงินที่แข็งแรง บริษัทไม่มีเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน จึงพร้อมที่จะมองหาโอกาสใหม่ ๆ อยู่เสมอ"นายสมเกียรติ กล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวว่า ปีนี้คาดจะเห็นกลุ่มบริษัทขยายไปสู่งานโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) มากขึ้น เนื่องจาก บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ เวนเจอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยได้ซื้อหุ้นสามัญ ของ บริษัท เอเชียน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด (AEC) ในสัดส่วน 63.75% ของหุ้นสามัญในบริษัทดังกล่าวแล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2563 โดยกลุ่มบริษัทจะเริ่มนำผลการดำเนินงานของ เอเชียน เอ็นจิเนียริ่งฯ เข้ามาในผลการดำเนินงานรวมของกลุ่มบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้นในไตรมาสที่ 2 ปีนี้

พร้อมกันนี้ STI ปรับประมาณการณ์เป้าหมายรายได้ปีนี้เป็นเติบโต 80% จากเดิมตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% เมื่อเทียบกับปี 62 ที่มีรายได้จากการให้บริการกว่า 712 ล้านบาท กำไรสุทธิ 85.5 ล้านบาท ขณะที่ งานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) ปัจจุบันมีรวมกันอยู่ที่ 4,500 ล้านบาท สร้างความเชื่อมั่นให้ผลประกอบการเติบโตอย่างแข็งแรงในระยาว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ