หุ้น SKN ราคาชนซีลลิ่ง 14.44% มาอยู่ที่ 2.06 บาท เพิ่มขึ้น 0.26 บาท มูลค่าซื้อขาย 2.39 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.42 น. โดยเปิดตลาดที่ 1.92 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.06 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1.83 บาท
บมจ.ส.กิจชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ (SKN) และบริษัทย่อย ประกาศผลดำเนินงานงวดไตรมาส 1/63 มีกำไรสุทธิ 30.29 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.04 บาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.69 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.005 บาท
พร้อมอธิบายว่า บริษัทมีกำไรก่อนภาษีเงินได้สำหรับไตรมาส 1 ปี 2563 อยู่ที่ 37.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2562 คิดเป็นร้อยละ 266.64 และกำไรสำหรับงวดไตรมาส 1 ปี 2563 อยู่ที่ 30.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2562 คิดเป็นร้อยละ 720.98
รายได้รวมของบริษัทสำหรับไตรมาส 1 ปี 2563 เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2562 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 11.11 เป็นผลมาจาก ปริมาณการขายสินค้าไม้ MDF เพิ่มสูงขึ้น จากกำลังการผลิตของไลน์ที่สองที่สามารถผลิตได้ถึงระดับการผลิตปกติของเครื่องจักร ทำให้ปริมาณขายสินค้าสูงขึ้น ประกอบกับราคาขายที่สูงขึ้นกว่าช่วงไตรมาส 1 ของปีก่อน เป็นสาเหตุเหลักที่ส่งผลให้รายได้จากการขายไม้ไตรมาส 1 ปี 2563 เพิ่มขึ้นคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 12.83
ส่วนรายได้อื่นของบริษัทในไตรมาส 1 ปี 2563 ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 66.03 มีสาเหตุหลักมาจากบริษัทมีผลขาดทุนจากสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า จากการผันผวนของค่าเงินบาทในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19
ต้นทุนขายของบริษัทสำหรับไตรมาส 1 ปี 2563 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 1 ปี 2562 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 7.04 มีสาเหตุหลักมาจาก ปริมาณการขายที่เพิ่มมากขึ้น
ค่าใช้จ่ายในการขายของบริษัทสำหรับไตรมาส 1 ปี 2563 ลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2562 คิดเป็นร้อยละ 22.29 มีสาเหตุหลักมาจากสัดส่วนการขายแบบ FOB ที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ค่าขนส่งทางเรือลดลง
ค่าใช้จ่ายในการบริหารของงบการเงินรวมไตรมาส 1 ปี 2563 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2562 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 171.40 สาเหตุหลักมาจากบริษัทมีผลขาดทุนจากสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า และค่าใช้จ่ายในการการดำเนินงานก่อสร้าง บจ.เอสคลีเบอร์ เคมีคอล ซึ่งเริ่มดาเนินการก่อสร้างในช่วงไตรมาส 4 ปี 2562
ต้นทุนทางการเงินของบริษัทสำหรับไตรมาส 1 ปี 2563 ลดลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2562 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 17.55 มาจากสาเหตุหลักคือบริษัทมีการจ่ายคืนเงินกู้ระยะยาวตามรอบการจ่ายชำระ ส่งผลให้ภาระดอกเบี้ยเงินกู้ระยะยาวลดลง
ด้วยปัจจัยข้างต้น ส่งผลให้ต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวมของบริษัทในไตรมาส 1 ปี 2563 ปรับสูงขึ้นเล็กน้อย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6.48 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2562