นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซาบีน่า (SABINA) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มั่นใจปี 63 มีกำไรสุทธิ หลังในไตรมาส 1/63 มีกำไรสุทธิแล้วที่ 70.44 ล้านบาท แม้จะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 95.25 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลทำให้ห้างสรรพสินค้าปิดชั่วคราว จึงกระทบต่อการขายผ่านหน้าร้าน ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 72% จากเดิมที่มีสัดส่วนรายได้จากการขายผ่านหน้าร้านอยู่ที่ 75-80%
โดยบริษัทฯ ได้มีการปรับแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยให้พนักงานขาย มา Live สดขายผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ส่งผลทำให้ในไตรมาส 1/63 บริษัทมีสัดส่วนยอดขายจากช่องทางดังกล่าวเพิ่มเป็น 15% จากเดิมที่ 10% และคาดว่าในไตรมาส 2/63 จะเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังได้ปรับโครงสร้างทางการตลาด ด้วยการหยุดการโฆษณาแคมเปญใหญ่ในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.63, ปรับโครงสร้างภายใน โดยโยกย้ายพนักงานที่ไม่ได้เย็บชุดชั้นในในช่วงหยุดการผลิต มาทำหน้าที่แพ็คสินค้าเพื่อส่งให้กับลูกค้า, หยุดไลน์ผลิตชุดชั้นใน เพื่อมาผลิตหน้ากาก ซึ่งในช่วงแรกบริษัทฯ ก็มีการผลิตเพื่อการบริจาคและรับ OEM ขณะที่ปัจจุบันก็เริ่มมีการผลิตเพื่อจำหน่าย ภายใต้แบรนด์ "TRIPLE Mask" ซึ่งเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดี
ปัจจุบันบริษัทได้ลดกำลังการผลิตชุดชั้นในลงมาแล้วราว 21% ส่งผลทำให้จากเดือนพ.ค.นี้เป็นต้นไป การผลิตจะลงมาอยู่ที่ 7 แสนชิ้นต่อปี จากเดิมที่มีกำลังการผลิตที่ประมาณ 9 แสนชิ้นต่อปี ถึง 1 ล้านชิ้นต่อปี
นายบุญชัย กล่าวว่า หลังจากที่มีการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ และห้างสรรพสินค้าเริ่มกลับมาเปิดให้บริการได้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (17 พ.ค.63) บริษัทฯ ก็มีได้มีการวางมาตรการเพื่อตอบรับการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) โดยเฉพาะการลดการสัมผัส เช่น งดการทดลองสินค้าชั่วคราว แต่ก็มีแคมเปญให้ลูกค้าเปลี่ยนสินค้าได้ฟรี เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าหากมีปัญหาก็สามารถนำมาเปลี่ยนได้, การจ่ายเงิน โดยใช้ e-wallet card หรือ บัตรเครดิตในการชำระเงินแทนเงินสด เป็นต้น