นายเดิร์ก อังเดร ลีน่า คุยเบอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 2/63 จะเป็นไตรมาสที่ท้าทายที่สุดของบริษัท หลังจากโรงแรมและรีสอร์ในเครือของบริษัทส่วนมากต้องหยุดทำการชั่วคราว แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมองเห็นความต้องการของตลาดที่เพิ่มมากขึ้น และรัฐบาลบางประเทศเริ่มดำเนินการผ่อนปรนมาตรการแล้วเช่นกัน
ทั้งนี้ บริษัทมองว่าตลาดนักท่องเที่ยวภายในประเทศจะเริ่มกลับมาเป็นอันดับแรก ตามด้วยนักท่องเที่ยวในประเทศใกล้เคียง ซึ่งโรงแรมและรีสอร์ทของบริษัทได้เตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะกลับมาเป็นอย่างดี พร้อมทั้งเพิ่มมาตรการเกี่ยวกับสุขอนามัยและความปลอดภัย และนโยบายการจองห้องพักที่ยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวในการจองและเข้าพักกับบริษัท
สำหรับการเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการอีกครั้ง บริษัทได้ปรับแผนและมาตรการต่างๆ ได้แก่ การบริหารจัดการต้นทุนและเงินสดของบริษัท และในระดับโรงแรมและรีสอร์ท การใช้มาตรการใหม่ในด้านสุขอนามัยในโรงแรมและรีสอร์ท การฝึกอบรมพนักงาน และการปรับปรุงซ่อมแซมโรงแรมและรีสอร์ทให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น พร้อมกับยังได้มีการทำกิจกรรมต่างๆทางด้านการสื่อสารการตลาด ที่สอดคล้องกับกระแสและสถานการณ์ในปัจจุบันให้แก่กลุ่มลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ
"เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าลูกค้าของเรา คู่ค้าทางธุรกิจ สถาบันการเงิน และเพื่อนพนักงานของเราทั้งหมดจะสามารถฝ่าฟันผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าด้วยความร่วมมือที่ดีเสมอมาของพันธมิตรและพนักงานของเรา และการวางแผนทางธุรกิจที่ดี ทำให้บริษัทกลับมาเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน"นายเดิร์ก กล่าว
นายชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน SHR กล่าวว่า ถึงแม้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติหลายด้านในขณะนี้ แต่ผลประกอบการไตรมาส 1/63 ของบริษัทยังมีรายได้และกำไรเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้เติบโตจากการรับรู้รายได้ของโรงแรมใหม่ 2 แห่งในโครงการ CROSSROADS มัลดีฟส์ คือ SAii Lagoon Maldives และ Hard Rock Hotel Maldives และศูนย์นันทนาการและความบันเทิงครบวงจรภายใต้ชื่อ "The Marina @ CROSSROADS"
ขณะเดียวกันบริษัทยังมีกำไรสุทธิ 235 ล้านบาท ได้อานิสงส์จากการรับรู้กำไรจากการขายหุ้น 50% ในบริษัท Prime Locations Management 3 Ltd ให้กับบริษัท Wai Eco World Developer Pte (WEWD) ซึ่งเป็นนักลงทุนจากประเทศเมียนมาร์ เพื่อพัฒนาโรงแรมระดับไฮเอนด์บนเกาะ 3 ในโครงการ CROSSROADS มัลดีฟส์ ซึ่งสอดคล้องกับแผนขยายธุรกิจในปี 63 โดยบริษัทคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทแห่งใหม่นี้ในปีนี้ และเปิดดำเนินการในปี 65
"เราเห็นถึงผลประกอบการที่ดีในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่โรงแรมใหม่ 2 แห่งในมัลดีฟส์ ที่มีลูกค้าเข้าพักเป็นจำนวนมาก แต่เริ่มชะลอตัวลงในเดือนก.พ.-มี.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบถึงกำไรจากการดำเนินงานที่ลดลง แต่อย่างไรก็ตามเรายังมีกำไรในไตรมาสแรกได้ จากการรับรู้กำไรจากการขายหุ้น 50% ให้แก่บริษัท WEWD"นายชัยรัตน์กล่าว
ส่วนโรงแรมในเครือ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ได้หยุดทำการโรงแรมและรีสอร์ทหลายแห่งชั่วคราวตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการล็อคดาวน์ของรัฐในหลายประเทศที่บริษัทประกอบกิจการอยู่ ยกเว้นโรงแรม บางแห่งในสหราชอาณาจักร ที่เปิดทำการเพื่อช่วยเหลือและเป็นที่พักสำหรับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานที่มีความจำเป็นในสถานการณ์นี้