นายสิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ (IMH) กล่าวว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปี 63 เติบโต 30% จากปีก่อนที่มีรายได้ 336.61 ล้านบาท และกำไรสุทธิจะเติบโตดีกว่าปีก่อนที่มีกำไร 10.50 ล้านบาท เนื่องจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ช่วยให้บริษัทมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น จึงได้รับการตอบรับที่ดีจากหลายบริษัทที่ให้ความไว้วางใจเข้ามาใช้บริการตรวจสุขภาพเพิ่มขึ้น ทั้งการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว และการตรวจสุขภาพประจำปีในโครงการตรวจสุขภาพคัดกรองความเสี่ยงของสำนักงานประกันสังคม จึงส่งผลให้ไตรมาส 1/63 รายได้เติบโตขึ้นและขาดทุนสุทธิลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ แม้ว่าในช่วงปลายไตรมาสแรก บริษัทจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้บริษัทเอกชนส่วนใหญ่ต้องมีการปิดดำเนินการชั่วคราว และเลื่อนการใช้บริการตรวจสุขภาพพนักงานออกไป แต่เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะกลับมาใช้บริการตรวจสุขภาพกันมากขึ้นเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลายลง บริษัทจึงยังมั่นใจว่าจะไม่กระทบกับเป้าหมายรายได้ในปีนี้
ดังนั้น แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 มองว่าขึ้นกับการผ่อนคลายล็อกดาวน์ และนโยบายต่างๆ ของภาครัฐว่าจะเอื้อให้บริษัทเอกชนต่าง ๆ กลับมาเปิดดำเนินการตามปกติหรือไม่ เพราะหากบริษัทเอกชนที่เป็นลูกค้าของ IMH สามารถกลับมาเปิดได้เร็วก็จะส่งผลดีต่อการกลับมาใช้บริการได้เร็วเช่นกัน
"เรายังไม่สามารถประเมินแนวโน้มไตรมาส 2/63 ได้ว่าจะดีกว่าไตรมาสแรกหรือไม่ เนื่องจากเรารอดูนโยบายจากภาครัฐ และบริษัทจะกลับมาเปิดดำเนินการใหม่ได้มากน้อยเพียงใด โดยคาดว่าในเดือน มิ.ย.นี้น่าจะเห็นบริษัทต่างๆ เริ่มกลับเข้าสู่ปกติมากขึ้น ก็น่าจะส่งผลดีต่อบริษัทจากปัจจุบันการตรวจสุขภาพก็ยังสามารถตรวจเท่าที่ตรวจได้" นายสิทธิวัฒน์ กล่าว
นอกจากนั้น จากวิกฤติโควิด-19 ทำให้บริษัทเริ่มเปิดให้บริการตรวจภูมิคุ้มกันโควิด-19 ทั้งแบบ Drive-Thru และให้บริการตามบ้านในแพ็คเกจราคา 850 บาทรวมค่าบริการ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี สามารถช่วยชดเชยรายได้ของกลุ่มงานตรวจสุขภาพที่หายไปได้ถึง 50% อย่างไรก็ตามในครึ่งปีหลังนี้คาดว่าชุดตรวจโควิด-19 น่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากพนักงานบริษัทส่วนใหญ่กลับมาทำงาน ทั้งนี้ เพื่อลดความกังวลใจของผู้ประกอบการ รวมถึงการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ก็น่าจะดีขึ้นหลังปลดล็อกดาวน์
อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้บริษัทได้ตัดสินใจชะลอแผนลงทุนขยายสาขาและการซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ก่อนหน้านี้บริษัทได้มีการทยอยซื้ออุปกรณ์ไปแล้วบางส่วนจำนวน 111 ล้านบาท จากเงินที่ได้จากการระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่ได้เงินมาทั้งหมดราว 330 ล้านบาท
นายสิทธิชัย กล่าวถึงราคาหุ้น IMH ที่ยังอยู่ต่ำกว่าราคาเสนอขาย IPO ที่ 6 บาท/หุ้นว่า ตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นต้นมายังไม่ใช่จังหวะที่ดีสำหรับบริษัท เนื่องจากได้รับปัจจัยลบค่อนข้างมาก แต่บริษัทขอเวลาพิสูจน์ผลงานในระยะ 1 ปีนี้ เพื่อทำให้เห็นว่าหุ้น IMH เป็นหุ้นที่น่าประทับใจและมีการเติบโตได้ตามที่คาดการณ์ไว้