GL เผย Q1/63 พลิกเป็นขาดทุนจากตั้งสำรองฯ ผลกระทบโควิด ตุนเงินสดกว่า 3.2 พันลบ.พร้อมลุยขยายทั้งใน-ตปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 18, 2020 16:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. กรุ๊ปลีส (GL) กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/63 โดยธุรกิจหลักยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีกระแสเงินสดกว่า 3.2 พันล้านบาทเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจในขณะที่สภาวะเศรษฐกิจยังคงชะลอตัว และไม่มีทิศทางชัดเจน พร้อมเร่งเครื่องเดินหน้าขยายธุรกิจทั้งในและตปท.

"จากที่เราใช้เวลาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความแข็งแกร่งของบริษัทจากฐานราก ในปีที่แล้วเราเริ่มมุ่งความสนใจไปที่การสร้างความเติบโตเพื่อไตรมาสนี้ ในขณะที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจยังไม่ชัดเจน แต่เรามีเงินสดกว่า 3.2 พันล้านเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจในช่วงเวลานี้ และเราสามารถเลือกที่จะลงทุนกับลูกค้าที่ดีได้ทุกที่ทุกเวลา"

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GL กล่าวว่า บริษัทพยายามสร้างผลประกอบการที่ดีให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง คำนึงถึงส่วนแบ่งทางการตลาดที่ดีและคัดเลือกลูกค้าเพื่อรักษารากฐานทางธุรกิจไว้ นอกจากนี้บริษัทยังมีการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยการประกอบธุรกิจของบริษัทยังคงมีกำไร มีปริมาณเงินสดจำนวนมาก และบริษัทจะพยายามสร้างผลประกอบการที่ดีในอนาคตอันใกล้นี้

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/63 บริษัทขาดทุน 115.42 ล้านบาท พลิกจากกำไรสุทธิ 107.60 ล้านบาทในไตรมาส 1/62 หลัก ๆ เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายพิเศษ แบ่งเป็น ค่าใช้จ่ายทางกฎหมายจำนวน 28 ล้านบาท การตั้งสำรองพิเศษสำหรับผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จำนวน 82 ล้านบาท และการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 53 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายพิเศษทั้ง 3 รายการนี้รวมแล้วมูลค่ามากกว่า 163 ล้านบาท ซึ่งหากไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษทั้งสามรายการนี้แล้วผลประกอบการของบริษัทจะมีกำไรในไตรมาสนี้

นายอาลัน ฌอง ปาสคาล ดูเฟส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน GL เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจหลักในประเทศไทยมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราร่วมงานกับผู้จัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นกว่า 17 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เป็นการแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการทำงานของเรา ในระยะเริ่มต้นของวิกฤตในเดือน มี.ค. บริษัทได้เปลี่ยนนโยบายการอนุมัติสินเชื่อเช่าซื้อในไทย ส่งผลให้เรายังรักษาคุณภาพของลูกหนี้ได้แม้อยู่ในภาวะเศรษฐกิจเลวร้ายยิ่งขึ้น หากเทียบปีต่อปี และไตรมาสต่อไตรมาส รายจ่ายในการประกอบการของเรายังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เราอยู่รอดได้ท่ามกลางเศรษฐกิจอันสั่นคลอนนี้ โดยธุรกิจสินเชื่อที่มีทรัพย์สินเป็นหลักประกันนั้น บริษัทได้ดำเนินมาตรการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งมีผลดีต่อเราเนื่องจากจำนวนสัญญาเพิ่มขึ้น 73% ต่อสาขา ในขณะที่ค่าใช้จ่ายต่อสาขาลดลง

สำหรับธุรกิจนอกประเทศไทย เรามุ่งความสนใจไปธุรกิจการให้สินเชื่อรายย่อยซึ่งยังคงเติบโตและผลประกอบการดี – รายได้จาก group loan ซึ่งเพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่ค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย การตั้งสำรองสำหรับผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 และการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิ การเติบโตของผลประกอบการของเราจะส่งผลให้บริษัทมีกำไรสูงขึ้นในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ