LPH เผยกำไร Q1/63 โตดีตามผู้ใช้บริการเพิ่ม คงเป้าทั้งปีรายได้โตแม้คาด Q2/63 รับพิษโควิด พร้อมรุกขยายงานต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 18, 2020 18:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โรงพยาบาลลาดพร้าว (LPH) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทงวดไตรมาส 1/63 มีรายได้รวม 424.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.74% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้หลักจากการรักษาคนไข้ทั่วไปเติบโตขึ้น 5.78% มาจากคนไข้นอกเติบโต 12.19% แต่คนไข้ในลดลด 4.02%

ขณะที่รายได้จากการรักษาพยาบาลโครงการประกันสังคมเพิ่มขึ้น 17.30% โดยรายได้หลักจากการรักษาพยาบาลเติบโต 10.04% หลัก ๆ มาจากการเพิ่มค่าบริการทางการแพทย์ของสำนักงานประกันสังคมในปีนี้ และการเติบโตต่อเนื่องของศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบของสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้ใช้บริการบางส่วนเลื่อนการเข้าใช้บริการที่ไม่เร่งด่วนหรือจำเป็นออกไปก่อน

สำหรับรายได้การให้บริการของบริษัทย่อย คือ บริษัท ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย จำกัด (AMARC) เติบโตขึ้น 12.60% เนื่องจากเป็นการให้บริการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการให้กับสินค้าเกษตรและอาหาร ซึ่งจำเป็นและยังคงต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องแม้อยู่ในภาวะโรคระบาด ส่งผลให้บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 42.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.79% จากงวดปีก่อนที่มีกำไร 35.46 ล้านบาท

"ผลประกอบการไตรมาส 1/63 ปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผู้ที่เข้าใช้บริการตรวจและรับการรักษาขยายตัวเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันทาง LPH ยังได้ปัจจัยบวกจากการที่คณะกรรมการประกันสังคมมีมติเพิ่มค่าบริการทางการแพทย์สำหรับผู้ประกันตนปี 2563 เป็น 3,959 บาทต่อคนต่อปี แบ่งเป็นเหมาจ่ายให้ โรงพยาบาลคู่สัญญา อัตรา 2,839 บาทต่อคนต่อปี และส่วนที่เหลือเป็นบริการนอกเหนือเหมาจ่ายเปอร์เซ็นต์ ซึ่งให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ส่งผลดีต่อ LPH เพราะช่วยสนับสนุนภาพรวมธุรกิจอีกทางหนึ่งด้วย"นายอังกูร กล่าว

นายอังกูร กล่าวว่า บริษัทยังยืนเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 20-25% เมื่อเทียบกับปี 62 ที่มีรายได้ประมาณ 1.59 พันล้านบาท เนื่องจากผู้ป่วยจ่ายเงินสดมีทิศทางอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ประกอบกับผู้ป่วยที่ใช้สิทธิ์ประกันต่างๆ ยังขยายตัวต่อเนื่อง รวมทั้งบริษัทฯมีการบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทาง LPH ได้มีการเพิ่มความเข้มงวดทั้งในส่วนของพนักงานและการคัดกรองผู้ป่วย โดยมีการแยกโซนระหว่างผู้ป่วยทั่วไป และผู้ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ตลอดจนยังมีการเปิดให้บริการตรวจไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงภายหลังการตรวจคัดกรองโรคแล้วเพิ่มเติม อีกทั้งได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารจัดการพนักงานในส่วนของออฟฟิศบางส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาลให้ไปทำงานที่บ้าน (Work From Home) เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ส่วนแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 2/63 คาดว่าผลประกอบการจะลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ผ่านมา เนื่องจากในเดือนเมษายน ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยจำนวนผู้ป่วยที่มาใช้บริการลดลง ขณะที่สถานการณ์ในครึ่งปีหลังคาดว่าน่าจะดีขึ้น หลังจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มในอัตราที่ลดลง

ด้านความคืบหน้าตามแผนการลงทุน ในส่วนของการก่อสร้างอาคารจอดรถอัจฉริยะ ขนาด 200-250 คัน ใช้งบลงทุนโดยประมาณ 110 ล้านบาท คาดจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 63 และแผนการเปิดให้บริการโรงพยาบาลตา ลาดพร้าว เป็นอาคารสูง 6 ชั้น ขนาด 6,400 ตารางเมตร งบลงทุนโดยประมาณ 200 ล้านบาท ให้บริการรักษาพยาบาลเกี่ยวกับโรคตาแบบครบวงจร ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ร่วมทุนและศึกษาความเป็นไปได้โครงการ

อาคารโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์เฉพาะทางลาดพร้าว แห่งที่ 2 เป็นอาคารโรงพยาบาลขนาดประมาณ 40 เตียง ขนาด 7,400 ตารางเมตร มูลค่าโครงการประมาณ 400 ล้านบาท อยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นได้โครงการและพิจารณาศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง เช่น ศูนย์โรคหัวใจครบวงจร ศูนย์มะเร็ง เป็นต้น

ส่วนแผนการร่วมลงทุนสร้างโรงพยาบาลในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาขนาด 60 เตียง ขณะนี้อาคารอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 63 โดยมีความประสงค์ที่จะขยายเป็น 100 เตียง เพื่อให้บริการรักษาผู้ป่วยทั่วไป บริการตรวจสุขภาพนอกสถานที่และรองรับผู้ป่วยสิทธิประกันสังคม มูลค่าโครงการโดยประมาณ 300 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างเพิ่มเติมประมาณ 1.5 ปี และสามารถเปิดดำเนินการได้ในปี 65


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ