นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.อิชิตันกรุ๊ป (ICHI) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 น่าจะเติบโตกว่าไตรมาส 1/63 ที่มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 1,285.4 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 159.2 ล้านบาท เนื่องจากการขยายไลน์สินค้ากลุ่มเครื่องดื่ม ไปสู่น้ำดื่มอัลคาไลน์ผสมวิตามิน B รวม "PH PLUS 8.5" คาดจะเริ่มวางจำหน่ายได้ในช่วงเดือนมิ.ย.นี้ โดยสินค้าดังกล่าวมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 30% ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ ในช่วงปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา บริษัทฯ ก็ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ กลุ่มสินค้า Cooling Effect ได้แก่ Ichitan Icy Mint รสชาติน้ำผึ้งมะนาวผสมมินต์, น้ำจับเลี้ยง สูตรเย้นนนเย็น และผลิตภัณฑ์นมอัดเม็ด วันมอร์ รวมถึงออกแคมเปญ ICHITAN x Free Fire "อิชิตัน รหัสล่า คาเพลา ลุ้นซิ่งมอเตอร์ไซต์ FREE FIRE"เอาใจลูกค้าคอเกม เริ่มตั้งแต่ 10 เม.ย.ถึง 24 มิ.ย.63 ซึ่งหลังจากออกแคมเปญดังกล่าวไปแล้ว ก็ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมาก
"กลยุทธ์การดำเนินงานในปีนี้บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นไปที่ 3N หรือ New Product, New Market และ New Business โดยไฮไลท์ของปีนี้ คือการเข้าไปสู่ตลาดน้ำดื่ม เนื่องด้วยในปีที่ผ่านมาตลาดน้ำดื่มในประเทศไทยมีมูลค่าตลลาดอยู่ที่ 45,000 ล้านบาท แบ่งเป็น น้ำดื่มปกติ 85% และน้ำแร่ 15% ขณะเดียวกันก็ยังมีตลาดน้ำดื่มประเภทอื่นที่มีการติบโตค่อนข้างมาก โดยเฉพาะตลาดน้ำดื่มที่เน้นในเรื่องของสุขภาพ ทำให้บริษัทฯ เล็งเห็นถึงการเติบโตจากความต้องการที่มีค่อนข้างมากในตลาดนี้"
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้ขยายตลาดไปสู่กลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา, ลาว, เมียนมา และเวียดนาม) แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ยังมีการเติบโตที่ดีอยู่ และสถานการณ์ล่าสุดกลุ่มประเทศดังกล่าวก็เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม, ลาว และกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ก็อยู่ระหว่างเจรจากับตัวแทนจำหน่ายสินค้ารายใหม่ที่จะเข้าไปในประเทศเวียดนามและเมียนมา คาดจะเห็นความชัดเจนได้ในไตรมาส 3/63
พร้อมกันนี้ก็อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรเรื่องโครงสร้างราคาในการส่งสินค้าน้ำดื่ม "PH PLUS 8.5" ไปจำหน่ายในประเทศกัมพูชา และลาว หลังได้ส่งสินค้าฯ ไปทดสอบกับผู้บริโภคดังกล่าวแล้วก็ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี คาดว่าจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การส่งออกในไตรมาส 3/63 ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากปัจจุบันสัดส่วนจากการส่งออกติดลบอยู่ที่ 18.4%
นายตัน กล่าวว่า สำหรับบริษัทร่วม อิชิตัน อินโดนีเซีย ปีนี้ตั้งเป้ารายได้จะเติบโต 4,156 ล้านลัง แม้ไตรมาส 2/63 ประเทศอินโดนีเซียจะยังมีการล็อกดาวน์ประเทศอยู่ แต่คาดว่าจะส่งผลกระทบกับบริษัทไม่มากนัก เนื่องจากสินค้าที่ขายเป็นสินค้าพรีเมียม โดยในไตรมาส 1/63 บริษัทฯ มีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาแล้วที่ 8.4 ล้านบาท