(เพิ่มเติม) BT คาดปี 50ยังกำไรได้แม้ต้องตั้งสำรองหนี้"เพรซิเดนท์อะกริฯ"อีก 695 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 25, 2007 16:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายพีรศิลป์ ศุภผลศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่  ธนาคารไทยธนาคาร(BT) เชื่อว่า ผลประกอบการของธนาคารในปี 50 จะพลิกเป็นมีกำไรได้จากปีก่อนที่มีผลขาดทุน แม้ว่าจะมีภาระการตั้งสำรองหนี้ที่มีปัญหา เพราะขณะนี้ผ่านช่วงครึ่งปีแรกมาแล้ว ธนาคารยังมีกำไรสุทธิในระดับ 490 ล้านบาท 
"เชื่อว่าทั้งปียังคงมีกำไรดีกว่าปีที่แล้วที่ขาดทุน" นายพีรศิลป์ กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังธนาคารยังมีภาระจะต้องตั้งสำรองพิเศษสำหรับหนี้ที่มีปัญหาตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) โดยเฉพาะลูกหนี้รายสำคัญอย่างกลุ่ม เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ อีก 695 ล้านบาท จากไตรมาส 2/50 ที่ตั้งสำรองฯ ไปแล้วครึ่งหนึ่ง หรือ 695 ล้านบาท
นอกจากนั้น ธนาคารมีการตั้งสำรองทั่วไปไตรมาสละประมาณ 200 ล้านบาท หรือปีละประมาณ 800-900 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกตั้งสำรองไป 545 ล้านบาท แต่ในช่วงต่อไปอาจจะต้องตั้งสำรองเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมียอดสินเชื่อรายย่อยเพิ่มขึ้น
"แม้ว่าจะต้องตั้งสำรองเพิ่มอีก 695 ล้านบาท คิดว่า Cover ได้ เนื่องจากนำกำไรมาตั้ง และยังมีกำไรเหลือ และในครึ่งปีแรกหากไม่ตั้งสำรองกรณีของเพรซิเดนท์ฯ จะมีกำไรพันกว่าล้านบาท" นายพีรศิลป์ กล่าว
นายพีรศิลป์ กล่าวว่า แนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ของธนาคาร ปัจจุบันมีสัดส่วน NET NPLs ที่ 2.8% ของยอดสินเชื่อรวม และสัดส่วน Gross NPLs อยู่ที่ 4-5% ซึ่งทางธนาคารได้ตั้งสำรองไว้ครบแล้ว และแม้ว่าขณะนี้ NPLs ของธนาคารจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่มากอย่างที่เคยคาดไว้
อย่างไรก็ตาม ในเดือนส.ค.นี้ ธนาคารอาจจะมีการพิจารณาปรับเป้าสินเชื่อลง จากเดิมที่คาดว่าจะโต 11-12% จากผลกระทบเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากมองว่าเป็นไปได้ยาก เพราะในครึ่งปีแรกสินเชื่อขยายตัวได้น้อย เพราะติดปัญหาในเรื่องเงินกองทุนของธนาคารเอง ประกอบกับมีความระมัดระวังมากขึ้นในการปล่อยสินเชื่อ
"อย่างไรก็ตาม จะพยายามทำให้โตเท่าที่โตได้ แต่ไม่อยากดันทุรัง เพราะไม่อยากให้เป็นปัญหาในอนาคต" นายพีรศิลป์ ระบุ
ส่วนเงินเพิ่มทุน 7 พันล้านบาทที่ขายหุ้นให้กับกลุ่ม TPG Newbridge และพันธมิตร คาดว่าจะได้รับเข้ามาในช่วงเดือนส.ค.-ก.ย.นี้ ซึ่งจะทำให้เงินกองทุนของธนาคารเพิ่มสูงขึ้น โดยเหตุที่เงินเพิ่มทุนล่าช้าไปบ้างเนื่องจากติดกระบวนการทางการ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ