หุ้น GPSC ราคาวิ่งขึ้น 3.41% มาอยู่ที่ 75.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,440.69 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.32 น. โดยเปิดตลาดที่ 74 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 76.25 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 73.75 บาท
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะนำหุ้น บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ราคาเป้าหมาย consensus 80 บาท ต้นทุนราคาก๊าซฯที่ปรับลดลงแรงคาดจะช่วยชดเชยรายได้ขายไฟในนิคมอุตสาหกรรม ที่หายไปบางส่วน ผสานกับส่วนแบ่งรายได้จากโครงการไซยะบุรีที่คาดจะดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2-3 ปีนี้ จากปริมาณน้ำในเขื่อนเริ่มเดือน เม.ย.ปรับตัวสูงขึ้น 40% MoM
ด้านบล.ไทยพาณิชย์ แนะ"ซื้อ"หุ้น GPSC แม้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาแล้ว 55% หลังจากตลาดร่วงแรงในเดือนมี.ค.-พ.ค. เพราะความกังวลเกี่ยวกับโควิด-19 และภัยแล้งในประเทศไทย โดยผู้บริหาร ระบุเหตุการณ์สองอย่างนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานใน ไตรมาส 1/63 มากนัก แม้ผลกระทบมีมากขึ้นในเดือนเม.ย. เพราะมาตรการอยู่บ้าน แต่ผลการดำเนินงานของ GPSC จะยังคงได้รับความคุ้มครองบางส่วนจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ระยาวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่คิดเป็น 48% ของรายได้ และการขายไฟฟ้าให้กับกลุ่มบมจ.ปตท. (PTT) คิดเป็น 25%
ทั้งนี้ คาดว่า GPSC จะรายงานกำไรและเงินปันผลเพิ่มขึ้นในปี 63-65 โดยได้รับการสนับสนุนจากการรับรู้ผลประโยชน์จากการซื้อกิจการบมจ.โกลว์ พลังงาน (GLOW) เพิ่มขึ้นและกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง โดยให้ราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี DCF ที่ 95 บาท
ไทยพาณิชย์ ระบุอีกว่า การประชุมนักวิเคราะห์ล่าสุด ผู้บริหารมีมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจและผลการดำเนินงาน ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาคที่มีสาเหตุมาจากโควิด-19 และราคาน้ำมันที่ร่วงลงแรง ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยปรับตัวลดลงสู่ระดับที่หดตัวลง 0.7% YoY เทียบกับประมาณการเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 2-3% GPSC วางแผนคงอัตราการใช้กำลังการผลิตไว้ที่ 95-100% โดยกำไรจะได้รับการสนับสนุนจากราคาก๊าซและถ่านหินที่ลดลง
GPSC ได้รับการสนับสนุนจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องจากธุรกิจโรงไฟฟ้าและธุรกิจไอน้ำทั้งที่อยู่ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทเองและผ่านส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุน