ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,322.20 จุด เพิ่มขึ้น 12.25 จุด (+0.94%) มูลค่าการซื้อขาย 67,672.70 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยทำระดับสูงสุดที่ 1,322.22 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,306.96 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 819 หลักทรัพย์ ลดลง 523 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 353 หลักทรัพย์
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งเหนือระดับ 1,300 จุด ทำให้ในทางเทคนิคมีโอกาสที่จะไปต่อได้ คาดว่าจะเป็นแรงเก็งกำไรเข้ามาหลังจากที่ผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เพื่อมาช่วยประคองเศรษฐกิจ ซึ่งเห็นได้ว่าหุ้นที่ได้ประโยชน์อย่างหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ฟื้นตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และตลาดยังได้อานิสงส์จากหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้นหลังจากที่ราคาน้ำมันขยับขึ้น เมื่อหุ้นขนาดใหญ่ขยับขึ้นก็ส่งผลให้ Sentiment เป็นบวกต่อหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กไปด้วย
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก และลบ จากช่วงเช้าที่จะติดลบเป็นส่วนใหญ่ ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็ติดลบเล็กน้อย แต่ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สยังบวกได้ อย่างไรก็ดียังต้องติดตามทิศทางราคาน้ำมัน และติดตามความคืบหน้าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจในยุโรป ส่วนบ้านเราให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของไทยในสัปดาห์หน้า โดยเฉพาะดุลบัญชีเดินสะพัด และตัวเลขส่งออกของไทยในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นช่วงปิดเมือง
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (21 พ.ค.) นายกิจพณ กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นต่อไปได้ โดยให้แนวรับไว้ที่ 1,315 จุด ส่วแนวต้าน 1,328 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BAM มูลค่าการซื้อขาย 4,753.16 ล้านบาท ปิดที่ 24.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 2,323.71 ล้านบาท ปิดที่ 76.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท
BGRIM มูลค่าการซื้อขาย 1,963.61 ล้านบาท ปิดที่ 50.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,941.77 ล้านบาท ปิดที่ 191.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
MINT มูลค่าการซื้อขาย 1,841.58 ล้านบาท ปิดที่ 17.30 บาท ลดลง 0.70 บาท