นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บมจ.ไทยวา (TWPC) เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/63 จะฟื้นตัวได้ เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 1/63 ที่รายได้ลดลงไป 17% เนื่องจากบริษัทสามารถที่จะกลับมาส่งสินค้าไปยังประเทศจีน และไต้หวัน ในส่วนของแป้งมันสำปะหลัง ที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถที่จะส่งสินค้าไปได้จากการปิดประเทศ ขณะที่การจำหน่ายสินค้าในกลุ่มอาหารนั้นก็สามารถเติบโตขึ้นได้เช่นกันแม้ว่าจะมีการปิดเมือง (Lock down) ของประเทศไทยก็ตาม เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่มีการกักตุนสินค้ารองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วย ในขณะเดียวกันบริษัทยังได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าไปยังตลาดออนไลน์ เพื่อที่จะรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ปรับเปลี่ยนไป นอกจากนี้บริษัทยังเน้นการบริหารจัดการต้นทุนด้านต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปีนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถใช้กำลังการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ 2 แห่ง กำลังการผลิต 2.8 เมกะวัตต์ต่อแห่ง รวมเป็น 5.6 เมกะวัตต์ ส่งผลให้สามารถลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้ 40 ล้านบาทต่อปี จากปีก่อนหน้านี้ที่ 30 ล้านบาท "แม้ว่าในช่วงก่อนหน้านี้บริษัทจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้บริษัทสามารถที่จะส่งออกสินค้าได้ และจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวในไตรมาส 2/63 นี้"
นายโฮ เรน ฮวา กล่าวอีกว่า ภาพรวมผลประกอบการครึ่งแรกปีนี้ น่าจะยังเติบโตได้หากเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน แม้จะต้องเผชิญผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะการส่งออกผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังไปยังประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักของบริษัทที่เริ่มฟื้นตัวแล้ว ขณะที่ตลาดประเทศอื่น ๆ มีทิศทางดีเช่นกัน ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป ในไตรมาส 2 จะรับรู้สินค้าใหม่ แม้จะมีสัดส่วนไม่มากแต่ก็จะช่วยสนับสนุนยอดขายได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ บริษัทยังมีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจไปยังประเทศอินโดนีเซีย โดยได้จัดตั้งบริษัท ไทยวา อินโดนีเซีย จำกัด เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากแป้งมันสำปะหลัง แป้งข้าว และอาหารจากแป้งอื่น ๆ เพื่อเพิ่มการเติบโตของปริมาณการขายอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงวางงบลงทุนรวมไว้ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท ภายในอีก 2 ปี เพื่อรองรับการขยายธุรกิจหรือต่อยอดจากธุรกิจเดิม รวมถึงการซื้อกิจการที่เชื่อมโยงกับ Core Business ของบริษัททั้งในและต่างประเทศ แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ระบาดทั่วโลก บริษัทได้ทบทวนแผนเพื่อชะลอการลงทุนบางส่วนออกไป แต่บริษัทยังมุ่งมั่นสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำธุรกิจแป้งมันสำปะหลังและอาหารจากแป้งระดับภูมิภาคเอเชียในอนาคต