บมจ. สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) เล็งปรับเป้ายอดขายและรายได้ในปี 50 โตเป็น 15% สูงขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะโต 10% หลังจากผลประกอบการ H1/50 ทำยอดขายได้ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 12-13% และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะทำได้ดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากยอดการสั่งซื้อจากลูกค้ายังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ผู้บริหารยืนยันว่าในปีนี้จะพยายามให้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 20% ขึ้นไป สูงขึ้นจาก 18-19% ในปีก่อน ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุน เพื่อให้มีกำไรสูงขึ้นจนสามารถมาจ่ายผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นในอัตราที่สูงกว่าปี 49 ให้ได้
สำหรับปี 51 และปีต่อๆไป ตั้งเป้าโตของยอดขายและรายได้ไว้ไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี หลังมั่นใจในภาพรวมเศรษฐกิจ ประกอบกับได้ออเดอร์ผลิตสำหรับปีหน้ามูลค่ากว่า 700 ลบ.มาอยู่ในมือแล้ว
*เตรียมทบทวนแผนธุรกิจปรับเพิ่มเป้าหลังยอดขาย H1/50 โตแล้ว 12-13%
นายวีระยุทธ์ กิตะพาณิชย์ กรรมการ SAT เปิดเผยว่า บริษัทกำลังทบทวนแผนธุรกิจในครึ่งปีหลังคาดว่าต้นเดือน ส.ค.นี้น่าจะเรียบร้อย โดยอาจจะปรับเพิ่มเป้าโตของยอดขายและรายได้ในปีนี้เป็น 15% จากเดิมที่คาดว่าจะโต 10% จากปี 49 ที่มีรายได้ 4,389.25 ล้านบาท
"สำหรับเป้าโตปีนี้ที่ 10% นี่ Conservative ไว้ก่อน แต่มีแนวโน้มน่าจะมากกว่า 10% อาจจะได้ถึง 15% ซึ่งตอนนี้เรากำลัง Review แผนครึ่งปี คาดว่าต้นเดือน ส.ค.น่าจะเสร็จ"นายวีระยุทธ์ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
สาเหตุที่มั่นใจว่าผลงานปีนี้น่าจะออกมาดีกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากรายได้และกำไรในครึ่งปีแรกดีกว่าช่วงเดียวกันของปี 49 ค่อนข้างมาก โดยยอดขายสูงขึ้นประมาณ 12-13% และในช่วงครึ่งปีหลังยอดขายน่าจะดีขึ้นอีก เพราะมียอดสั่งซื้อจากลูกค้าเข้ามาต่อเนื่อง และอาจจะมียอดขายการสั่งซื้อใหม่ๆเข้ามาเพิ่มขึ้น
"ถ้าเผื่อสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ ไม่มีอะไรมากระทบไปมากกว่านี้ เช่น การเมืองไม่กลับมากดดัน ค่าเงินบาทจะไม่แข็งค่าขึ้นอีก คือถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบตอนนี้ก็ยังถือว่าไม่น่าเป็นห่วง"นายวีระยุทธ์ กล่าว
ปี 49 SAT มีรายได้ 4,389.25 ล้านบาท กำไร 442.60 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 1/2550 รายได้ 1,202.12 ล้านบาท และกำไร 132.98 ล้านบาท
รวมทั้งจะมีความพยายามที่ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปี 50 Gross Profit Margin:GP) ปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายคืออยู่ที่ระดับ 20% ขึ้นไป จากปี 49 ที่ GP อยู่ที่ระดับ 18-19% ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน เพื่อให้มีกำไรเพิ่มขึ้นจนสามารถนำมาจ่ายผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นในอัตราที่สูงกว่าปี 49 ได้ โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 30% ของกำไรสุทธิ
"มีความเป็นไปได้ที่อาจจะจ่ายปันผลได้สูงกว่าปี 49 ที่จ่าย 0.50 บ./หุ้น ถ้า Performance ดีขึ้นแบบนี้"นายวีระยุทธ์ กล่าว
*ตั้งเป้าโตเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 10%
นายวีระยุทธ์ กล่าวถึงแนวโน้มปี 51 และปีต่อๆไปว่า บริษัทตั้งเป้าอัตราเติบโตของยอดขายและรายได้ไว้ไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี เนื่องจากขณะนี้ได้รับออร์เดอร์ส่วนหนึ่งสำหรับปีหน้ามาแล้ว
"ปีหน้าอาจจะดีกว่าปีนี้ เพราะเห็นรัฐบาลบอกว่าอัดฉีดเรื่องเงินแล้ว แถมยังบอกว่า GDP ปีหน้าอาจจะไปถึง 5% ถ้าเป็นอย่างนั้นก็น่าจะดี ประกอบกับของเราได้ออเดอร์งานหล่อและการกลึง (Machining) สำหรับปีหน้ามาแล้วด้วย รวมๆกันแล้วก็น่าจะดีกว่าปีนี้"นายวีระยุทธ์ กล่าว
ก่อนหน้านี้ SAT ระบุว่ามีออเดอร์ใหม่จากลูกค้าที่จะเข้ามาในปีนี้ 300 ล้านบาท และออเดอร์ทั้งปีอีก 1.4 พันล้านบาท นอกจากนั้นบริษัทยังได้ออเดอร์ผลิตชิ้นส่วนรถแทรกเตอร์ของคูโบต้า 717 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในปีหน้า
*บาทแข็งไม่มีนัยสำคัญต่อบริษัท
นายวีระยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่เงินบาทแข็งค่าหนักในขณะนี้ว่า บริษัทได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยและไม่ได้มีนัยสำคัญ เนื่องจากมีการส่งออกสินค้าทางตรงเพียง 3% นอกนั้นเป็นการส่งออกทางอ้อม 60% คือส่งให้กับบริษัทประกอบรถยนต์ภายในประเทศเพื่อการส่งออก และมีรายได้ในประเทศ 30% ที่เหลือเป็นรายได้อื่น ๆ
นอกจากนี้ การที่บริษัทมีโรงงานเหล็กหล่อเป็นของตัวเอง จากการเข้าไปซื้อกิจการบริษัท อินเตอร์เนชันแนล แคสติ้ง โปรดักส์ จำกัด(ICP) ผู้ผลิตชิ้นส่วนงานหล่อ(Casting Products)สำหรับรถยนต์เช่น รถยนต์โดยสาร รถกระบะ และรถบรรทุกเมื่อเร็วๆนี้ ก็เป็นหนึ่งในแนวทางที่จะทำให้ต้นทุนลดลง เพราะสามารถลดการสั่งซื้องานหล่อจากนอกกลุ่มบริษัทลงได้อย่างมาก ส่วนการหาวัตถุดิบเพื่อมาใช้ในงานหล่อก็ไม่มีปัญหา เพราะวัตถุดิบส่วนใหญ่หาได้จากในประเทศเป็นหลัก
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--