นายวิทยา อินาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมกาเคม (ประเทศไทย) (MGT) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมทบทวนเป้าหมายรายได้ปี 63 หลังสิ้นสุดไตรมาส 2/63 จากปัจจุบันยังคงเป้ารายได้จะเติบโตมาที่ 950 ล้านบาท เนื่องจากหลายธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่บริษัทซัพพลายสินค้าให้เริ่มเห็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ชัดเจนมากขึ้นในช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย.63 ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจรถยนต์ ที่ลดการผลิตลง รวมถึงธุรกิจก่อสร้าง โรงงานปูนซีเมนต์ก็มีการลดกำลังการผลิตลงเช่นกัน ทำให้มองว่าอาจกระทบกับผลการดำเนินงานในไตมาส 2/63 แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯ จะพยายามทำผลงานให้ดีกว่าไตรมาส 1/63 ที่มีปริมาณการขายอยู่ที่ 194.71 ล้านบาท
ขณะที่ความคืบหน้าของโครงการวิจัย พัฒนา ผลิตและจำหน่าย Expand Graphite บริษัทฯ ยังคงแผนการจัดตั้งบริษัทร่วม "บริษัท Mega Fuji Graphite จำกัด" โดยบริษัทถือหุ้น 49% ร่วมกับ Fuji Graphite Works ถือหุ้น 51% โดยมีทุนจดทะเบียน 35 ล้านบาท คิดเป็นเงินลงทุนส่วนของบริษัท 17.15 ล้านบาท คาดจะดำเนินการจดทะเบียนเสร็จสิ้นได้ภายในไตรมาส 4/63
ส่วนแผนการการก่อสร้างและการผลิตของโครงการฯ บริษัทฯ ได้ชะลอการลงทุนดังกล่าวออกไปก่อน จากผลกระทบโควิด-19 คาดว่าจะเริ่มกลับมาดำเนินการได้ในช่วงกลางปี 64 หรืออย่างเร็วที่สุดไตรมาส 1/64
พร้อมกันนี้ภายหลังจากที่บริษัทฯ เข้าเป็นคู่ค้า (Vendor List) กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เพื่อขยายธุรกิจ และกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจหลักไปสู่ธุรกิจใหม่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาเพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน ประเภทไบโอแก๊ส, ไบโอแมส, โซลาร์ฟาร์ม และโซลาร์รูฟท็อป คาดว่าจะสามารถสรุปความชัดเจนรายละเอียดของธุรกิจใหม่ได้ในช่วงไตรมาส 4/63