ดัชนีหุ้นไทยเปิดตลาดเช้าร่วงกว่า 10 จุด ก่อนจะไหลลงเป็นกว่า 21 จุด กลับลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,300 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ดิ่งลง หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีนอาจจะนำไปสู่การทำสงครามการค้ารอบใหม่ ขณะที่ล่าสุดศบค.อนุมัติต่อการใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน ตามมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
เมื่อเวลา 9.58 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,309.92 จุด ลดลง 10.77 จุด (-0.82%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,299.66 จุด ลดลง 21.03 จุด (-1.59%)
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างติดลบกัน โดยเฉพาะตลาดหุ้นฮ่องกงที่ติดลบหนักถึง -3.5% จากสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ตึงเครียดขึ้น โดยทางวุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายซึ่งอาจทำให้บริษัทสัญชาติจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐถูกถอดออกจากตลาด และทางประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาขู่ว่าสหรัฐจะตอบโต้จีนอย่างรุนแรง หากจีนออกกฎหมายความมั่นคงในฮ่องกงเพื่อจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง
ส่วนบ้านเราในเรื่องการคลายล็อกดาวน์ ตลาดฯก็รับรู้ไปแล้ว
ล่าสุด นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานมีมติต่ออายุพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 31 พ.ค.63 ออกไปอีก 1 เดือน ตามข้อเสนอของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า