นายณรงค์ สีตสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) เปิดเผยว่า บริษัทมีเงินทุนหมุนเวียนจำนวน 12,022 ล้านบาท และมีกำไรสะสมจากการดำเนินงานมากกว่า 21,258 ล้านบาท สะท้อนถึงฐานะทางการเงินที่มั่นคง โดยบริษัทมีความพร้อมทั้งด้านแหล่งเงินทุน รวมถึงความพร้อมในด้านสถานที่ตั้งซึ่งอยู่ใกล้ระบบสายส่งไฟฟ้า ท่อส่งก๊าซธรรมชาติ และมีระบบสาธารณูปโภคต่างๆพร้อมรองรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าและขยายการลงทุนในธุรกิจ บริษัทจึงมั่นใจในศักยภาพด้านต่างๆ พร้อมสำหรับการเข้าร่วมประมูลก่อสร้างโรงไฟฟ้าไอพีพีในปีนี้อย่างแน่นอน
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้ บริษัทฯรับรู้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 47 เนื่องมาจากรายได้ค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าราชบุรี จำนวน 3,037 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจำนวน 235 ล้านบาทจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ตามอัตราค่าความพร้อมจ่ายเฉลี่ยที่ระบุไว้ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในปี 2550 ซึ่งสูงกว่าปี 2549 รวมทั้ง บริษัทได้รับค่าชดเชยการประกันภัยจากเหตุเพลิงไหม้บริเวณเครื่องดักจับก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนราชบุรี เครื่องที่ 1 เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2548 บริษัทประกันภัย จำนวน 496 ล้านบาท
ประกอบกับมีบันทึกส่วนแบ่งกำไรในกิจการร่วมค้าในไตรมาส 2 ปี 2550 นี้ บริษัทฯรับรู้รายได้จำนวน 177 ล้านบาท ซึ่งลดลงจำนวน 42 ล้านบาทจากไตรมาส 2 ปี 2549 เนื่องมาจาก บริษัทฯรับรู้ส่วนแบ่งกำไร นบริษัท ไตร เอนเนอจี้ จำกัด (“ไตร เอนเนอจี้") ตามสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 50 ลดลงจำนวน 43 ล้านบาทจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากในไตรมาสนี้ ไตร เอนเนอจี้ มีการหยุดซ่อมโรงไฟฟ้าทำให้กำไรจากการดำเนินงานลดลงเป็นจำนวน 25 ล้านบาท และรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 18 ล้านบาท
ขณะที่ในไตรมาสนี้ ดอกเบี้ยจ่ายมีจำนวน 330 ล้านบาท ลดลง 38 ล้านบาท จากไตรมาส 2 ปี 2549 ซึ่งมีจำนวน 368 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยจ่ายเฉลี่ยสำหรับเงินกู้ระยะยาวและหุ้นกู้ของบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัดในงวดนี้ลดลง รวมทั้งบริษัทฯบันทึกดอกเบี้ยรับจำนวน 158 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 26 ล้านบาทจาก ดอกเบี้ยรับจำนวน 132 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 12,389 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้จากค่าขายไฟฟ้ารวม จำนวน 11,527 ล้านบาท ดอกเบี้ยรับ จำนวน 158 ล้านบาท ส่วนแบ่งกำไรในบริษัทย่อยและกิจการร่วมค้า เป็นเงินจำนวน 177 ล้านบาท ค่าชดเชยการประกันภัย จำนวน 496 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ จำนวน 31 ล้านบาท ขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวม จำนวน 10,249 ล้านบาท ประกอบด้วย ต้นทุนขาย จำนวน 9,749 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายจากการบริหารจำนวน 135 ล้านบาท ส่วนดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้รวมจำนวน 365 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานประจำงวด 6 เดือนแรกของปี 2550 ฉบับก่อนสอบทาน บริษัทฯมีกำไรสุทธิรวม 4,189 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 2.89 บาท เพิ่มขึ้น 796 ล้านบาท หรือร้อยละ 23 เมื่อเปรียบเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,393 ล้านบาท
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--